เตรียมตัวให้พร้อม มีทหารกองหนึ่งขวางอยู่ระหว่างเรากับที่
ปลอดภัย จะฝ่าฝนนี้ไปได้ก็ต้องยอมนองเลือดกันไปข้าง — แนะนำตัว |
ไม่มีเวลามาเข้าเรื่องอะไรกันแล้ว ว่าง่ายๆ ว่าพวกเขาล่าตัวเรา
อยู่ เราต้องไปกันแล้ว! — ภาคีสนธยา |
ไอ้ภาคีสนธยาดันมาตั้งค่ายข้างหน้าที่ซ่อนเรา ข้าหนีมาเพื่อมา
หลอกล่อพวกเขา ข้าถึงถูกจับแขวนแบบนี้ไง ข้ามีทางออก
เพียงเท่านี้ พวกเขายังอยู่ที่นี่ อาจจะรู้ขึ้นมาในไม่ช้า! เราต้อง
ไปกันแล้ว! — การตรึงกางเขน |
วันนี้ฝนฟ้าอากาศแย่ไม่เบาเลยนะเจ้าคนแปลกหน้า ช่วยอะไรข้าหน่อยได้ไหม... ช่วยข้าลงมาหน่อย... — CedrusShoutForHelp |
ขอบใจเจ้ามาก... — CedrusThanks |
ถ้าข้าเลือกได้ ข้าก็ไม่อยากฆ่าอดีตพรรคพวกข้าดอก แต่พวก
เขาทำให้เราไม่มีทางเลือก... — CedrusWild_Brothers |
โอดิก ไอ้อ้วนสารเลว! แกมาจับข้าแขวนขออีกไหมล่ะ! — CedrusWild_Ohdig_1 |
เกิดอะไรขึ้นล่ะโอดิก? ทำไมแกไปอยู่ข้างมันเล่า? — CedrusWild_Ohdig_2 |
เราต้องหยุดอดีตพรรคพวกข้าให้จงได้! ข้าจะทำในสิ่งที่ต้องทำ แล้วต่อสู้เคียงข้างเจ้า! — CedrusWild_Battle_1 |
หยุดสักทีเถอะ! หยุดเสีย! ก่อนที่มันจะสายเกินแก้! — CedrusWild_Battle_2 |
พวกเขาเลือกเจ้าสินะ ลูเมเรียส เจ้าเป็นผู้กอบกู้นี่เอง — CedrusWild_Lumerius_1 |
น่าเสียดายที่เจ้าช่วยเด็กอีก 8 คนเอาไว้ไม่ได้ — CedrusWild_Lumerius_2 |
หยุดสักทีเถอะลูเมเรียส! — CedrusWild_Lumerius_3 |
เวร์แคลส์ทจงเจริญ! — CedrusWild_Shout_1 |
ไง เอล ข้ากลับมาละ! — CedrusReturnToTown_1 |
เฮ้ ไม่เป็นไรน่า ข้าไม่ตายหรอก เจ้าคนแปลกหน้าผู้นี้ช่วยข้าไว้
น่ะ — CedrusReturnToTown_2 |
บางทีการดูแลคนมันก็เป็นงานที่ไม่มีใครเห็นหัวน่ะ ก็นะ ยินดี
ต้อนรับสู่ที่หลบภัยเล็กๆ ของเรา ข้าไม่กล้าเรียกว่าที่นี่เป็นบ้าน
หรอก เราเคลื่อนที่อยู่ตลอด แต่มันก็พอเป็นที่หลบฝนได้อยู่
เอาละ เจ้ามาทำอะไรที่นี่กันล่ะ? ไม่มีคนสติดีที่ไหนมาที่
โอริอาทกันหรอก ไม่มีแน่ๆ — แนะนำตัว |
ยินดีต้อนรับสู่ที่หลบภัยเล็กๆ ของเรา ข้าไม่กล้าเรียกว่าที่นี่
เป็นบ้านหรอก เราเคลื่อนที่อยู่ตลอด แต่มันก็พอเป็นที่หลบฝน
ได้อยู่ เอาละ เจ้ามาทำอะไรที่นี่กันล่ะ? ไม่มีคนสติดีที่ไหนมาที่
โอริอาทกันหรอก ไม่มีแน่ๆ — CedrusIntroductionTownShorter |
ยินดีต้อนรับสู่ที่หลบภัยเล็กๆ ของเรา ข้าไม่กล้าเรียกว่าที่นี่
เป็นบ้านหรอก เราเคลื่อนที่อยู่ตลอด แต่มันก็พอเป็นที่หลบฝน
ได้อยู่ — CedrusIntroductionTownShortest |
เจ้าอยากบุกเข้าไปในภาคีสนธยารึ? ไม่ได้โง่นี่นา แค่บ้าเฉยๆ
ประตูหลักทางพื้นดินจะอยู่ทางลานผู้อุปถัมภ์ แม้มันจะไร้
ประโยชน์เช่นไรก็ตาม เราใช้ช่องทางนี้ตอนที่เราหนีออกมาจาก
เขตแดน แต่ตอนนี้มันน่าจะถูกคุ้มกันอย่างหนักแล้วละ หากเจ้า
อยากไปที่นั่นจริงๆ เจ้าจะต้องเดินทางผ่านแดนสลัมไปก่อน
แล้วจากนั้นเจ้าจะไปได้ทางอุโมงค์เก็บน้ำ มันน่าจะเละเทะไม่เบา
แต่เจ้าจะไปถึงที่หมายได้แน่ — DNT |
ภาคีสนธยาส่งหน่วยลาดตระเวนมาเป็นพักๆ แต่พวกเขาก็เป็น
แค่คนน่ะ ในเมื่อพวกเทมพลาร์หายไป ความลับชั่วช้าของพวก
มันก็ออกมาเพ่นพ่านไปทั่ว นครนี้ก็เดือดดาลไปด้วยภัยสยอง
เหนือจินตนาการแตกต่างกันไปทุกฤดู เราได้เจอทั้งอันเดด
อสุรกายน้ำแข็ง รูปปั้นติดน้ำหนองสีดำ และฝันร้ายทั้งหลาย
แหล่ที่ข้าอยู่ไกลเกินกว่าจะแยกแยะได้ ดังนั้นเราจะมาอยู่กันที่นี่
ในวันนี้ — ภัยสยอง |
จะเรียกว่าเกาะนี้เป็นเกาะต้องสาปมันก็ไม่แปลก แต่อันตรายที่
อยู่บนเกาะนี้ล้วนเป็นผลมาจากมนุษย์ทั้งนั้น พวกเทมพลาร์
ทะยานอยากมาหลายต่อหลายศตวรรษ รวบรวมสิ่งมีชีวิต
ประหลาด เวทมนตร์ต้องห้ามเอาไว้ในหอจดหมายเหตุมา
มากมาย สมัยก่อนข้าได้ยินข่าวลือมาตลอดว่ามีการทดลอง
มืดมนและโบราณวัตถุจากวัฒนธรรมหลายๆ อย่างที่ถูกลืม
เลือนมานาน ในเมื่อไม่มีใครมาควบคุมความลับนี้เอาไว้ โอริอาท
จึงกลายเป็น ซากนครที่รวบรวมภัยสยองทั้งหลายเอาไว้ในที่
แห่งเดียว — โอริอาท |
เราทุกคนเคยเป็นผู้ยึดมั่นถือมั่นในภาคีมาก่อนทั้งนั้น หากไม่
นับเอลวินเนียนน่ะ ทุกๆ คนที่อยู่ที่นี่ก็หนีมากับข้าทั้งนั้น ที่พวก
เขาทำอยู่ตอนนี้... เราไม่อาจร่วมได้เป็นอันขาด — ภาคี |
ข้าหนาวเหน็บเจ็บตัวใช่ย่อย ถ้าเจ้ารอดได้นานพอ ข้าจะเล่าให้
ฟังแต่ไว้ทีหลังนะ — ภาคีสนธยา |
แต่ไว้เล่าต่อคราวหลังก็แล้วกัน — CedrusDontWantToTalk_2 |
เธอเป็นเด็กกำพร้าของโอริอาทจริงๆ เธออยู่ตัวคนเดียวมา
เกือบตลอดชีวิต ข้านึกภาพไม่ออกเลย หากข้ารู้ตแ่แรกว่าเธอ
อยู่ข้างนอกนี่ในยามที่ข้าอยู่ในที่ปลอดภัยข้างหลังกำแพงสูง
ข้า... ไม่รู้สิ ข้าไม่รู้ว่าข้าจะทำยังไงลงไป ตอนนั้นข้าก็มีศรัทธา
อยู่ไม่เบา แต่ตอนนี้ข้าไม่อาจทนคิดได้ว่าเธอต้องมาอยู่ข้างนอก
นี้เพียงคนเดียวแบบนี้ การเจอเธอนั้นเปลี่ยนชีวิตข้าจริงๆ! มัน
ทำให้ข้าตั้งคำถามกับศรัทธาข้าเป็นครั้งแรก! หากข้าไม่อาจ
ดูแลคนคนเดียวได้ ข้าจะมีส่วนร่วมในการเปลี่ยนโลกทั้งใบได้
ยังไงเล่า? เป็นคำถามที่สูงส่งเกินไปสำหรับคนธรมดาสามัญ
คนหนึ่ง — เอลวินเนียน |
ข้าเจอเธอครั้งแรกในห้องขังของภาคี พวกเขาจับได้ว่าเธอ
ขโมยอาหาร แล้วก็ไม่รู้จะทำยังไงกับเธอ พวกเขาพยายาม
เกลี้ยกล่อมให้เธอมาร่วมกับเรา แต่เธอปฏิเสธ พวกเขาไม่อาจ
โยนเธอออกไปตามลำพังได้ มันไม่ต่างอะไรกับสั่งประหารเล
สักนิด! ประเด็นนี้จึงเป็นที่สนใจกับข้า ข้าเลยไปสอบสวนเธอ
ด้วยตัวเอง เราพูดคุยกัน ให้ความไว้วางใจกับผู้อื่นที่อยู่ภาย
นอกภาคีเป็นครั้งแรกในสองทศวรรษ มันทำให้ข้าคลางแคลง
ใจขึ้นมา — เอลวินเนียน |
สมัยก่อนตอนที่โอริอาทเป็นนครที่รุ่งเรือง ตอนที่ข้าเป็นชายที่
หนุ่มแน่นกว่านี้ พวกนายทาสแห่งลานประลองนำตัวชาย
ร้ายกาจผู้หนึ่งมาจากหุบเขาใกล้กับทาร์ทัส ข้าไม่รู้เสียด้วยซ้ำ
ว่าเรียกว่าเป็น{ชาย}ได้ไหม เขามีตาเดียวอยู่ตรงกลางกะโหลกที่
มีงามหึมา เขาเอาชนะคู่แข่งได้ราบคาบ เป็นนักสู้ที่เหี้ยมโหด
ที่สุดที่ข้าพบเห็นมาเลยละ! ไม่มีใครมีพละกำลังหรือความ
ทะยานอยากทัดเทียมกับเขาเลยสักคน! เขายังอยู่ที่นั่นนะ ทุก
คนอยู่ที่นั่นกันหมด ตายไปนาน แต่ยังคงเดินดิน ข้าแนะนำให้
เจ้าหลีกเลี่ยงสังเวียนนั่นให้ได้ ไม่มีมนุษย์ผู้ใดที่มีพละกำลัง
เทียบกับเขาได้เป็นแน่ — นักสู้ทาร์ทาน |
เจ้าปราบไซคลอปส์แห่งทาร์ทัสได้รึ?! น่าทึ่งยิ่งนัก! ข้าไม่รู้จะ
พูดอะไรยังไงเสียด้วยซ้ำ ข้าพลาดเองที่โอ้อวดว่าไม่มีมนุษย์ใด
สามารถปราบเขาได้ — รางวัลเควสต์ นักสู้ทาร์ทาน |
เจ้าปราบไซคลอปส์แห่งทาร์ทัสได้รึ?! น่าทึ่งยิ่งนัก! ข้าไม่รู้จะ
พูดอะไรยังไงเสียด้วยซ้ำ — CedrusGladiatorArenaQuestCompleteShort |
เจ้าก่อความวุ่นวายไม่เบาเลยนะ เจ้าจะไม่ได้เข้าประตูนั้นแน่ๆ
แต่ข้าก็แอบสงสัยอยู่ เอลวินเนียนรู้จักทางเข้าอื่น... — เส้นทางบุก |
ข้าเป็นศิษย์ เป็นชายหนุ่มที่เพิ่งจบมาจากวิทยาลัยใหม่ๆ ตอนที่
เทมพลาร์ระดับสูงเวนาริอุสหายตัวไป มีการกล่าวหามากมาย
ทะเลาะเบาะแว้งกันภายในไม่เว้นวัน คนดีๆ ทั้งชายทั้งหญิงถูก
จับเผาทั้งเป็นข้อหาเรื่องการนอกรีต! มีเพียงอำนาจเท่านั้นที่
ปกป้องคนคนหนึ่งได้ ข้าไม่มีอำนาจอะไรเลย ตอนนั้นข้าเองก็
เป็นคนที่จะถูกประหารเป็นคนต่อไป ตอนที่โดมินัสครอง
ตำแหน่งเทมพลาร์ระดับสูงแล้วหยุดความวุ่นวายได้สำเร็จ
อย่างน้อยก็คลายกังวลได้พักหนึ่ง เขาหาได้สนใจการสวด
ภาวนาหรือศาสนาไม่ เบื้องหน้าเขาเคารพพระเจ้า แต่แอบ
แสวงหาอำนาจด้วยการทำงานของพลังมลทินและเวทมณี ข้า
หมดศรัทธาในศาสนาไปจากการรับใช้เขา นั่นเป็นตอนที่ภาคี
สนธยามาหาข้า พวกเขาบอกว่ามีวิธีในการปกป้องมนุษยชาติ
ให้พ้นจากเผด็จการ วิธีที่จะคุ้มครองพวกเขาให้รอดพ้นจากคน
อย่างโดมินัส ข้าจึงเข้าร่วมกับพวกเขา — ภาคีสนธยา |
พวกเทมพลาร์หรือลัทธิอินโนเซนนี่มีอายุมาหลายพันปีแล้ว
ภาคีนี้อยู่ร่วมกับพวกมันมาตั้งแต่แรกเริ่ม เป็นฝ่ายต่อต้าน
อุดมการณ์ของพวกมันอย่างลับๆ เหล่าผู้ก่อตั้งภาคีนี้เป็นคน
กลุ่มใหม่ที่เดินทางเข้ามายังเวร์แคลส์ท พวกเขามีความคลาง
แคลงใจต่างจากพรรคพวกของพวกเขานัก พวกเขาเองได้
เดินทางข้ามน้ำข้ามทะเลมมาจากทรราชแต่โบราณ แล้วก็ได้พบ
กับเหตุการณ์ที่คล้ายคลึงกันจนน่ากังวลอยู่ที่นี่ คำสอนของ
เทมพลาร์ระดับสูงคนแรกเปลี่ยนแปลงไปบ่อยครั้งในยุคแรก
เริ่ม เปลี่ยนไปในแนวทางที่ดูจะสอดคล้องกับอำนาจเก่าของ
พวกเขา แทนที่จะเป็นศรัทธาอย่างแท้จริง มีบางคนที่สงสัยว่า
แม็กซาเรียสเป็นผู้ที่สวมหน้ากากสีทองในช่วงที่มีเทพเจ้า
สำแดงกายอย่างมหัศจรรย์ขึ้นมา เมื่ออินโนเซนปรากฏตัวขึ้น
มาอย่างไม่อาจปฏิเสธได้ ว่ากันว่าแม็กซาเรียสตายไปในวัน
เดียวกันและถูกฝังศพเอาไว้ เหล่าผู้ก่อตั้งของเราแอบเข้าไปใน
สุสานในคืนสงัดซึ่งจะกลายเป็นสถานเก็บกระดูกในภายหลัง
พวกเขาเปิดหลุมศพของเขาขึ้นมา และไม่พบสิ่งใดภายในนั้น
ภาคีสนธยาจึงถือกำเนิดในช่วงเวลานั้นเอง แม็กซาเรียสหาได้
ตายไม่ เขากลายเป็นเทพเจ้าไปแล้ว! กลายเป็นเทพเจ้าด้วย
พลังศรัทธาของเหล่าผู้ที่บูชาเขาจากความลวงหลอกทั้งสิ้น
ทวยเทพทั้งหลายเป็นเพียงมนุษย์เท่านั้น แม้จะเป็นมนุษย์ที่
ทะยานอยาก มนุษย์ที่นิยมการกดขี่ แต่ก็ยังเป็นมนุษย์ไม่ต่าง
กัน และไม่ควรได้รับพลังอิทธิพลเช่นนี้ ข้ายังตกลงปลงใจไป
กับอุดมการณ์ของพวกเขา แต่มิได้เห็นด้วยกับวิธีการของภาคี
แต่อย่างใด — ภาคีสนธยา |
เราเป็นองค์กรลับเร้นอยู่ภายในพวกเทมพลาร์ จนถึงวันที่
ทวยเทพตื่นขึ้นมา เมื่ออินโนเซนและคิทาวาออกทำลายล้างใน
โอริอาท ภาคีของเราก็เปี่ยมไปด้วยศรัทธา ผู้คนมากหน้าหลาย
ตาเข้ามาร่วม เรายังคงอยู่ที่นี่ต่อไปเมื่อเกาะนี้ถูกทอดทิ้ง และ
เราก็ทุ่มเททำงานต่อไปด้วยศรัทธาแรงกล้า เพราะเราไม่จำเป็น
ต้องคอยปิดบังตัวตนอีกต่อไป — ทวยเทพ |
ศาสนาของเราก่อตั้งขึ้นมาด้วยความระแวงระวังทวยเทพ แต่
เมื่อพวกมันหายไปอย่างลึกลับในเวลาหลายพันปีก่อน สมาชิก
ภาคีของเราแต่โบราณจึงทุ่มเทหาเหตุผลที่เป็นเช่นนั้น ท้าย
ที่สุดพวกเขาก็ได้พบว่าบีสต์มีอยู่จริง เป็นสิ่งมีชีวิตที่เป็นฝัน
ร้ายที่มีพลังในการผันเปลี่ยนและกลืนกินศรัทธาของสาวกและ
ผู้คลั่งศาสนา พวกเราหาได้สร้างสิ่งมีชีวิตนี้ขึ้นมาไม่ แต่ว่าถ้า
เรามีศักยภาพพอที่จะทำเช่นนั้น เราย่อมสร้างมันขึ้นมาเป็นแน่
ไม่เลย ความจริงน่าสะพรึงยิ่งกว่าที่คิด เทพผู้ถูกกล่าวร้ายใน
ศาสนาลวงหลอกของเรา ลัทธิอินโนเซน เป็นผู้ที่หักหลังพี่ชาย
ของเขาและทวยเทพทั้งหลายด้วยการเพาะพันธุ์สิ่งที่ยุติพลัง
เทวาได้ ภาคีของเราเกือบจะสลายตัวไปในช่วงสหัสวรรษหลัง
จากนั้น ลดน้อยถอยลงจนเหลือเพียงผู้คุมศาสนาเอาไว้ไม่กี่คน
คนเหล่านั้นยึดมั่นคำสอนเอาไว้ในจิตด้วยความกลัวเกรงว่าสัก
วันทวยเทพเหล่านี้อาจกลับมา จนกระทั่งเกิดเรื่องมาลาไคขึ้น
มา — บีสต์ |
ภาคีของข้าคอยจับจ้องแต่ไกลในยามที่มาลาไคเข้าไปในบีสต์
ทำการควบคุมมัน แล้วเริ่มบิดเบือนเวร์แคลส์ทได้ดังใจอยาก
พวกเรามุ่งมั่นในการสร้างแดนสุขาวดีด้วยพลังเช่นนั้นตลอด
เวลาหลายศตวรรษที่ผ่านมา เราตั้งคำถามเอาไว้เช่นนี้ จะเป็น
เช่นไรหากผู้ที่มีจิตบริสุทธิ์ ไร้ตำหนิ ทำการสร้างโลกขึ้นมาใหม่
ให้ดีดังเดิม? พวกผู้เฒ่าเริ่มกำหนดการแต่งงานและสร้างบุตร
หลานอย่างมีแบบแผน โดยมีจุดมุ่งหมายให้เกิดเป็นผู้นำที่
สมบูรณ์แบบ ซึ่งก็คือผู้กอบกู้! แล้วทุกอย่างก็พังพินาศลงเมื่อ
บีสต์ถูกสังหารเมื่อ 20 ปีก่อน แล้วทวยเทพก็กลับคืนมา — มาลาไค |
สิ่งที่เรากลัวเกรงที่สุดกลับกลายเป็นจริง เมื่อบีสต์ถูกฆ่าด้วย
น้ำมือของเอ็กไซล์ชั่วช้าผู้หนึ่ง โอริอาทก็เกิดความวุ่นวายใน
ทันที เริ่มจากอินโนเซน แล้วตามด้วยคิทาวา แผ่นดินใหญ่ถูก
ทำลายล้างด้วยเทพองค์แล้วองค์เล่า แต่ละองค์กลับมาจาก
การหลับใหลหลายพันปีด้วยความกระหายเลือดและบ้าคลั่งยิ่ง
นัก! แผนการของเรา ศรัทธาของเรา... ถูกท้าทายถึงที่สุด โลก
ต้องการเรา แต่เราไม่รู้จะทำเช่นไรหลังจากที่บีสต์หายไป นั่น
เป็นตอนที่เคาน์เตสกลับมาจากการเดินทางไกล ตอนที่ข้าเริ่ม
อยู่ในประวัติศาสตร์ผิดฝ่าย — ความตายของบีสต์ |
เคาน์เตสรายงานว่ามีการทำลายล้างของทวยเทพในทุก
วัฒนธรรมทั่วทั้งเวร์แคลส์ท มนุษย์ย่อมไม่อาจเจริญได้เมื่อผู้ที่
ดีเด่นและชาญฉลาดจะคอยติดกับดักไปกับความบ้าคลั่ง
เลวร้ายที่เกิดขึ้นจากความทะยานอยากและการเป็นเทพ เรารู้ว่า
อะไรๆ มันแย่นัก แต่เธอยังมาพร้อมกับทางออกสุดท้าย เทพผู้
ถูกกล่าวร้ายได้กลับมาเดินดินอีกครั้ง เขาเร้นกายในเงามืด
คอยหลบเลี่ยงผู้คน พยายามซ่อนตัว แต่เธอพบตัวเขา เขาก็
ถือเมล็ดพันธุ์มืดมนนี้อยู่ เมล็ดพันธุ์ที่อาจปลูกบีสต์ให้เติบใหญ่
ขึ้นมาใหม่! เรามีความหวังอยู่พักหนึ่ง แต่ในเมื่อเวลาผ่านไป
หลายต่อหลายปี เขาหาได้ปลูกเมล็ดพันธุ์แล้วเริ่มกระบวนการนี้ขึ้นมาไม่ เราจึงรู้ว่าเขาไม่มีเจตนากลับไปกระทำอย่างที่เคยทำ
ไว้แต่โบราณอีกต่อไป เขาหาได้ต้องการช่วยเหลือเราเป็นครั้งที่
สองไม่ เขาเก็บงำเมล็ดพันธุ์ให้พ้นจากมือเรา! เคาน์เตส
เกลี้ยกล่อมผู้เฒ่าทั้งหลาย และพรรคพวกของข้ามากมาย เธอ
บอกว่า{เรา}ต้องทำอะไรสักอย่าง {เรา}ต้องชิงเมล็ดพันธุ์นั้นมา
แล้วปลูกให้มันงอกงามเสีย! เราสามารถทำให้ทวยเทพกลับไป
หลับใหลแล้วนำพาแดนสุขาวดีได้! หากเราอดทนทำในสิ่งที่ต้อง
ทำได้จริง... — เคาน์เตส |
เจ้าพอเห็นมาแล้วว่าภาคีทำอะไรให้เมล็ดพันธุ์นี้งอกงาม ข้า
บอกได้จากความมืดมิดในดวงตาเจ้า บรรพบุรุษของข้ามีเวลา
หลายพันปีในการค้นคว้าความรู้ของพวกวาล์ และอารยธรรม
ทั้งหลายที่มาก่อนหน้านั้น เราเข้าอกเข้าใจ{วิธีการ}การปลูก
เมล็ดพันธุ์ด้วยวิถีมนุษย์อย่างถี่ถ้วน ในเมื่อเรามิได้มีพลังเทวา
อย่างเทพผู้ถูกกล่าวร้าย วิธีการของเราจึงต้องใช้เนื้อหนัง ศพ
หลายต่อหลายพันคนถูกเข่นฆ่าสดๆ เพื่อเป็นอาหารให้
เมล็ดพันธุ์นี้เป็นภูเขาคนตายนั่นเอง นั่นเป็นเพียงก้าวแรก
เท่านั้น เราจะสร้างบีสต์ขึ้นมาใหม่และสร้างโลกขึ้นมาใหม่ เรา
ย่อมต้องเสี่ยงสร้างมหาภัยพิบัติขึ้นมาด้วยตนเอง หากผู้กอบ
กู้มิได้ไร้ที่ติแล้วมีความปฏิปักษ์ ความริษยา หรือความทะยาน
อยากแม้แต่น้อย มันย่อมต้องมีราคามหาศาลเป็นแน่ ข้าไม่อาจ
ทำได้ลง เมื่อมีการตัดสินใจลงมาจากเบื้องบนเมื่อหลายปีก่อน
ข้ากังวลว่าแผนนี้จะคร่าชีวิตคนบริสุทธิ์นับพันอย่าง
เอลวินเนียนที่ข้าผูกพันนัก และยังมีคนต้องตายอีกหลายต่อ
หลายคน แดนสุขาวดีจะเกิดขึ้นจากจุดเริ่มต้นที่น่าสะพรึงเช่นนี้
ได้ยังไงเล่า? ข้าจึงหนีออกมา และพาทุกคนที่ข้าเกลี้ยกล่อมให้
ออกมาด้วยกัน ภาคีจึงตามล่าพวกเรานับแต่นั้นมา — เมล็ดพันธุ์ |
เจ้ารู้จักสองคนนั้นรึ? หากเจ้าให้การรับรองกับพวกเขา แค่นั้น
ก็ดีพอสำหรับข้าแล้ว เราต้องการพรรคพวกทุกคนที่หามาได้ — DNT |
เกิดอะไรขึ้น...? เราอยู่ที่ไหนกัน? นี่มัน... เราล้มเหลวรึ? ไม่... เรา
ยังมีชีวิตอยู่ มันยังพอมีเวลาเหลืออยู่! ข้าบาดเจ็บหนัก แต่ข้า
จะให้การช่วยเหลือเจ้าจากที่นี่อย่างสุดความสามารถ มันถึง
เวลาแล้วละเพื่อนยาก ได้เวลาเสี่ยงเป็นเสี่ยงตายกันแล้ว — CedrusCataclysmIntro |
ข้าไม่รู้เลยว่าเกิดอะไรขึ้นอยู่ข้างนอกนั่น แต่เอลวินเนียนไม่ได้
อยู่คนเดียวเป็นแน่ เรามาจัดการเรื่องนี้กันก่อนเถอะ — CedrusOnCataclysm |
— Cedrus_Greeting_01_01.ogg |
— Cedrus_Greeting_01_02.ogg |
— Cedrus_Greeting_01_03.ogg |
— Cedrus_Greeting_01_04.ogg |
— Cedrus_Greeting_01_05.ogg |
— Cedrus_Greeting_01_06.ogg |
— Cedrus_Greeting_02_01.ogg |
— Cedrus_Greeting_02_02.ogg |
— Cedrus_Greeting_02_03.ogg |
— Cedrus_Greeting_02_04.ogg |
— Cedrus_Greeting_02_05.ogg |
— Cedrus_Greeting_03_01.ogg |
— Cedrus_Greeting_03_02.ogg |
— Cedrus_Greeting_03_03.ogg |
— Cedrus_Greeting_03_04.ogg |
— Cedrus_Greeting_03_05.ogg |
— Cedrus_Farewell_01_01.ogg |
— Cedrus_Farewell_01_02.ogg |
— Cedrus_Farewell_01_03.ogg |
— Cedrus_Farewell_01_04.ogg |
— Cedrus_Farewell_02_01.ogg |
— Cedrus_Farewell_02_02.ogg |
— Cedrus_Farewell_02_03.ogg |
— Cedrus_Farewell_02_04.ogg |
— Cedrus_Farewell_02_05.ogg |
— Cedrus_Farewell_03_01.ogg |
— Cedrus_Farewell_03_02.ogg |
— Cedrus_Farewell_03_03.ogg |
— Cedrus_Farewell_03_04.ogg |
— Cedrus_Farewell_04_01.ogg |
— Cedrus_Farewell_04_02.ogg |
— Cedrus_Farewell_04_03.ogg |
— Cedrus_Farewell_04_04.ogg |
— Cedrus_Farewell_04_05.ogg |