การสำรวจของเรานั้นถือเป็นกิจลับ เรามาคุยเรื่องนี้กันในที่ซ่อนของเจ้าเสียดีกว่า — DannigOnExpeditionMap |
งานนี้มันแปลยากหน่อยนะ ผู้บันทึกประจำคณะสำรวจเป็นมือใหม่แน่ๆ เพราะว่ารายการจุดสังเกตมันน่าเบื่อสิ้นดี... ตั้งแต่เนินเขาที่มีชื่อ, แม่น้ำ, เทือกเขา... แต่เขาก็พูดถึงการศึกต่างๆ อย่างยืดยาวนะ มันมีการเขียนไว้หลายต่อหลายหน้าถึงลูกศรหน้าไม้อาร์บาลเลสต์ที่ 'เจาะทะลุเข้าไปในคอกับหัวใจของผู้คืบคลานที่แต่งกายอย่างประหลาดนัก' แม้จะเป็นหลายพันปีก่อน คนหนุ่มก็ยังกระหายเลือดไม่ต่างจากสมัยนี้สินะ
คำอธิบายนั้นอาจเป็นตำแหน่งของพวกวาล์ แต่เขาก็ไม่ได้พูดถึงเครื่องแต่งกายของพวกเขาอย่างละเอียด การใช้หน้าไม้อาร์บาลเลสต์ก็อาจแปลว่าเป็นผลงานของพวกเคียวดำ มันมีอยู่หลายตำแหน่งที่ตรงกับรายละเอียดของสมุดปูมเดินทางเล่มนี้นะ เจ้าว่ายังไงล่ะ? — DannigLogbookVaalPlusBlackScythe |
เจ้ามีแต่เนื้อหนังกับกระดูกนะ เอ็กไซล์ แต่เจ้ามาได้ไกลเช่นนี้ เจ้าคงจะมีพรสวรรค์พอสมควร เจ้าอยากนำทักษะมาช่วยเรื่องเกี่ยวกับเกียรติยศไหมล่ะ? — DannigIntroGeneralTemplar |
อา เพื่อนนักรบ! เจ้ากับข้าน่าจะมาแบ่งปันเรื่องราวความกล้าหาญชาญชัยของเหล่าบรรพชนกันรอบๆ กองไฟเข้าสักวัน! แต่ก่อนอื่น ข้ามีเรื่องอยากขอความช่วยเหลือ มันเป็นเรื่องเกี่ยวกับเกียรติยศ ข้าเชื่อว่าเป็นสิ่งที่เจ้าทำได้ดี — DannigIntroMarauder |
ได้เวลาที่เจ้าจะทำตัวให้มีประโยชน์แล้ว เจ้าจัดการต่อสู้ไปนะ — DannigNotHelping |
สวัสดี! — DannigApproachShoutRandom |
สวัสดี! — DannigApproachShout2 |
สวัสดี! — DannigApproachShout3 |
เยี่ยม! — DannigDetonationRandom |
เยี่ยม! — DannigDetonation2 |
เยี่ยม! — DannigDetonation3 |
งดงามนัก! — DannigDetonation4 |
งดงามนัก! — DannigDetonation5 |
งดงามนัก! — DannigDetonation6 |
เข้ามาอีกก้าว — DannigDetonation7 |
เข้ามาอีกก้าว — DannigDetonation8 |
เข้ามาอีกก้าว — DannigDetonation9 |
อยากเผชิญกับอันตรายใหญ่หลวงเลยสินะ... — DannigBombPlacementRiskRandom |
อยากเผชิญกับอันตรายใหญ่หลวงเลยสินะ... — DannigBombPlacementRisk2 |
อยากเผชิญกับอันตรายใหญ่หลวงเลยสินะ... — DannigBombPlacementRisk3 |
เจ้ามั่นใจกับลูกนั้นเหรอ? ดูเสี่ยงนะ — DannigBombPlacementRisk4 |
เจ้ามั่นใจกับลูกนั้นเหรอ? ดูเสี่ยงนะ — DannigBombPlacementRisk5 |
เจ้ามั่นใจกับลูกนั้นเหรอ? ดูเสี่ยงนะ — DannigBombPlacementRisk6 |
ตรงนั้นคงจะมีเครื่องประดับอยู่ไม่น้อย — DannigBombPlacementTreasureRandom |
ตรงนั้นคงจะมีเครื่องประดับอยู่ไม่น้อย — DannigBombPlacementTreasure2 |
ตรงนั้นคงจะมีเครื่องประดับอยู่ไม่น้อย — DannigBombPlacementTreasure3 |
อา เจ้าหาสมบัติอยู่สินะ! — DannigBombPlacementTreasure4 |
อา เจ้าหาสมบัติอยู่สินะ! — DannigBombPlacementTreasure5 |
อา เจ้าหาสมบัติอยู่สินะ! — DannigBombPlacementTreasure6 |
มันจะทำให้เกิดการต่อสู้แน่ๆ... — DannigBombPlacementDangerRandom |
มันจะทำให้เกิดการต่อสู้แน่ๆ... — DannigBombPlacementDanger2 |
มันจะทำให้เกิดการต่อสู้แน่ๆ... — DannigBombPlacementDanger3 |
มีอันตรายแฝงอยู่พอสมควรเลยนะ... — DannigBombPlacementDanger4 |
มีอันตรายแฝงอยู่พอสมควรเลยนะ... — DannigBombPlacementDanger5 |
มีอันตรายแฝงอยู่พอสมควรเลยนะ... — DannigBombPlacementDanger6 |
พร้อมไหม? — DannigAllBombsPlacedRandom |
พร้อมไหม? — DannigAllBombsPlaced2 |
พร้อมไหม? — DannigAllBombsPlaced3 |
งั้นก็เรียบร้อย — DannigAllBombsPlaced4 |
งั้นก็เรียบร้อย — DannigAllBombsPlaced5 |
งั้นก็เรียบร้อย — DannigAllBombsPlaced6 |
เจ้าพร้อมเมื่อไหร่ข้าก็พร้อม — DannigAllBombsPlaced7 |
เจ้าพร้อมเมื่อไหร่ข้าก็พร้อม — DannigAllBombsPlaced8 |
เจ้าพร้อมเมื่อไหร่ข้าก็พร้อม — DannigAllBombsPlaced9 |
จะจุดชนวนแล้ว! — DannigDoingDetonationRandom |
จะจุดชนวนแล้ว! — DannigDoingDetonation2 |
จะจุดชนวนแล้ว! — DannigDoingDetonation3 |
จะจุดชนวนแล้ว! — DannigDoingDetonation4 |
จะจุดชนวนแล้ว! — DannigDoingDetonation5 |
บริวาร! จุดชนวนเสีย! — DannigOrdersSquireDetonateRandom |
บริวาร! จุดชนวนเสีย! — DannigOrdersSquireDetonate2 |
บริวาร! จุดชนวนเสีย! — DannigOrdersSquireDetonate3 |
โบราณวัตถุบางอย่างมันสำคัญกว่าโบราณวัตถุอื่นๆ หากเจ้าพบอะไรจากกองอัศวินดวงตะวัน ข้าจะรับโบราณวัตถุของพวกเขา แล้วเอาโบราณวัตถุอื่นๆ ที่คนอื่นต้องการมาให้เจ้า — DannigExplainsExchanging |
ข้ามีภารกิจในการสืบหาเกี่ยวกับกองอัศวินดวงตะวัน แล้วเก็บโบราณวัตถุของพวกเขามาเสีย ข้าพร้อมนำโบราณวัตถุอื่นๆ ที่สำคัญน้อยกว่ามาแลกกับโบราณวัตถุของพวกเขา — DannigExplainsExchangingAlternate |
มาดูกันว่าข้ามีอะไรอีก... — DanningRerollInventoryRandom |
มาดูกันว่าข้ามีอะไรอีก... — DanningRerollInventory2 |
มาดูกันว่าข้ามีอะไรอีก... — DanningRerollInventory3 |
ข้าพอคุ้ยหาตัวเลือกเพิ่มเติมได้บ้างนะ — DanningRerollInventory4 |
ข้าพอคุ้ยหาตัวเลือกเพิ่มเติมได้บ้างนะ — DanningRerollInventory5 |
ข้าพอคุ้ยหาตัวเลือกเพิ่มเติมได้บ้างนะ — DanningRerollInventory6 |
เจ้าสนใจอย่างอื่นใช่ไหม? — DanningRerollInventory7 |
เจ้าสนใจอย่างอื่นใช่ไหม? — DanningRerollInventory8 |
เจ้าสนใจอย่างอื่นใช่ไหม? — DanningRerollInventory9 |
เพลิงทริสเกียลอยู่ข้างล่างนี้! ข้าสัมผัสได้ถึงพลังของมัน! — DannigOlrothFightTombOpened |
นั่นไง! ในที่สุดเราก็เจอมันแล้ว! — DannigOlrothFightFlameSeen |
เอ็กไซล์! เขาขยับตัว! — DannigOlrothAwakens |
ขณะที่เขายังไม่ฟื้น ไปเอาเพลิงนั่นกันเถอะ! — DannigOlrothDefeatedFirst |
เราเอาชนะเขาไม่ได้โดยตรงแน่ๆ เอาระเบิดไปทำลายเพลิงนั่นซะ! — DannigOlrothDamageFlameFirst |
มันยังไม่จบ! — DannigOlrothDefeatedSecond |
ใช้วัตถุระเบิดอีก! สร้างความเสียหายกับเพลิงทริสเกียลเสีย! — DannigOlrothDefeatedDamageFlameSecond |
เพลิงนั่นถูกทำลายไปแล้ว... แต่อย่างน้อยออลรอธก็ได้ไปสู่สุคติสักที — DannigOlrothFightEnd |
อย่าบอกคนอื่นๆ ล่ะว่าเราทำลายเพลิงนั้นไปแล้ว พวกเขาจะหมดหวัง จุดหมายปลายทางของภารกิจนี้มันไม่ใช่เรื่องสำคัญ มันสำคัญที่การเดินทางระหว่างนั้น — DannigOlrothFightEpilogueCommentary |
เรากำลังตามหาฐานปฏิบัติการที่ปลอดภัยและห่างไกลจากที่อื่น หากเจ้ามีที่ซ่อนมันก็คงจะดี เราสามารถวางแผนกองสำรวจของเราได้จากที่นั่น — DanningHowAboutYourHideout |
เจ้ามันโลเลนะ แต่ก็ได้ — DannigReinvitedToHideout |
ผู้บันทึกของกองอัศวินดวงตะวันมักจะเจ้าบทเจ้ากลอนจนเกินเหตุน่ะ มีใครรู้ไหมว่าไอ้ 'เดล' นี่คืออะไรกันแน่? หมอนี่ใช้คำนี้มา{สามรอบ}ในการอธิบายหุบเขา ที่โล่ง กับทุ่งหญ้า จะเขียนอะไรก็เขียนให้มันเจาะจงสักหน่อยสิไอ้ผู้บันทึกเหตุการณ์! ข้าตีความทุกอย่างอย่างสุดความสามารถจากสมุดปูมเดินทางเล่มนี้แล้ว งานนี้แล้วแต่เจ้าเลย เอ็กไซล์ — DannigLogbookKnightsOfTheSun |
สมุดปูมเดินทางของพวกเคียวดำนี่มันสังเกตได้ง่ายมาก มันจะเต็มไปด้วยรายละเอียดการต่อสู้ กับคำอธิบายอันสุดแสนวิจิตรเกี่ยวกับการต่อสู้อันรุนแรง กับความงามในการสังหารของวอราน่า แต่มันไม่ค่อยมีการระบุตำแหน่งการจัดสรรทรัพยากรอะไรนักเลย ข้าก็รู้พอๆ กับเจ้าแหละเอ็กไซล์ — DannigLogbookBlackScytheMercenaries |
มันช่างน่าขนลุกขนพองนัก สมุดปูมเดินทางที่ถูกเขียนจากผู้บันทึกของพวกดรูอิดมักอธิบายสภาพภูมิประเทศว่ามัน{เคยเป็นเช่นไร} รวมถึงว่ามัน{อาจเป็นเช่นไรในวันหนึ่ง} สมุดปูมเดินทางพวกนี้มักบรรยายได้ตรงกับสภาพภูมิทัศน์ที่เราได้เห็นในปัจจุบัน พวกเขาไม่ได้มองเห็นอนาคตจริงๆ จากการมองเข้าไปในอดีตเพียงเท่านั้นใช่ไหม? พวกเขาเป็นเพียงผู้เชี่ยวชาญในเรื่องราวของธรรมชาติ ใช่ วิทยาศาสตร์ที่แฝงอยู่ในความลี้ลับ... เป็นข้ออ้างที่ปลอบประโลมข้าได้ดีนัก เรามาทดสอบการคาดเดาของพวกเขาดูไหมล่ะเอ็กไซล์? — DannigLogbookDruidsOfTheBrokenCircle |
เออห์เทร็ดกับนักบวชของเขามีแผนการลับเป็นของตัวเอง มันยากนักที่จะตีความบันทึกทางศาสนาที่อาจไม่ใช่เรื่องจริงเสียด้วยซ้ำ ข้าไม่ได้ด่าศาสนานะ ข้าแค่ด่าการเลือกคำอันคุยโวโอ้อวดเพียงเท่านั้น ทุกอย่างมันก็ 'บริสุทธิ์' และ 'สว่างจากแสงดารา' และ 'เปล่งประกาย' มันทำให้การรวบรวมหลักฐานร่องรอยต่างๆ ช่างน่าหงุดหงิดนัก แต่อย่างน้อยมันก็มีสถานที่ของภาคีถ้วยจอกอยู่แห่งหนึ่ง เราจะไปตามอะไรกันดีล่ะเอ็กไซล์? — DannigLogbookOrderOfTheChalice |
ข้าไม่ค่อยรู้เรื่องราวของชาวมาราเค็ท แต่จุดสังเกตต่างๆ ในสมุดปูมเดินทางอาจทำให้เราได้ไปเยือนสถานที่ดึกดำบรรพ์ของพวกเขา ถ้าเราไวพอ ข้าว่าเราจะลอยนวลไปได้ แล้วแต่เจ้าเลยนะเอ็กไซล์ — DannigLogbookMaraketh |
ข้าไม่ใช่คนที่ฝักใฝ่การแสวงหาทรัพย์สมบัติ แต่งานนี้มันยั่วใจข้าได้เหมือนกัน สมุดปูมเดินทางเล่มนี้บรรยายว่ามีทองเป็นกองภูเขาในนครวาล์ที่เต็มไปด้วยผู้คืบคลานที่แต่งตัวมีสีสัน มีทองเป็นกองภูเขา มีทอง... เป็นกองภูเขา... เจ้าว่ามันยังอยู่ไหม? ไปหาคำตอบกันเถอะ เว้นแต่เจ้าจะอยากจะเดินทางไปที่อื่นที่น่าสนใจน้อยกว่านี้ด้วยเหตุบางประการ... — DannigLogbookVaal |
กองสำรวจนี้อาจนำเราไปยังสถานที่ของชาวคารุย พวกเขาเป็นกลุ่มชนอันมีเกียรติที่ข้าอยากทำความรู้จักยิ่งนัก ข้าใช้เวลามาตลอดชีวิตในการแสวงหาชื่อเสียง ข้าจึงสนใจวิถีของพวกเขาเป็นอย่างมาก เรามาเรียนรู้กันให้สุดความสามารถกันไหมล่ะเอ็กไซล์? — DannigLogbookKarui |
ข้าสนใจในจักรวรรดินิรันดร์นี้ยิ่งนัก ข้าอยากเรียกพวกเขาว่าพวกไม่ค่อยนิรันดร์เพราะว่าตายไปหมดแล้ว แต่ในเมื่อยังมีพวกเขาอยู่หลายต่อหลายคนที่เดินไปเดินมาเป็นพวกผู้คืบคลาน ชื่อนี้อาจจะถูกอยู่แล้วก็เป็นได้ มาสำรวจสถานที่ดึกดำบรรพ์ของพวกเขาสักแห่งไหมล่ะเอ็กไซล์? — DannigLogbookEternalEmpire |
ชาวโอริอาทไม่เป็นมิตรกับเรานัก กองสำรวจนี้อาจพาเราไปหาสถานที่หนึ่งของพวกเขา และข้าก็อยากจงใจทำลายอะไรเล็กๆ น้อยๆ อีกด้วย อยากมาทำลายล้างกันสักหน่อยไหมล่ะเอ็กไซล์? — DannigLogbookOriathan |
เบาะแสภูมิประเทศจากสมุดปูมเดินทางเล่มนี้อาจนำเราไปสู่ตำแหน่งที่เคยเป็นที่อยู่อาศัยของพวกพรายน้ำ ข้าว่ามันเป็นแค่เรื่องปรัมปรานะ แต่เรื่องปรัมปราก็มักมีความจริงเล็กน้อยอยู่เสมอ ข้าคงจะอุดหูเพื่อหลบหนีเพลงที่ว่ากันว่าทำให้ต้องเสน่ห์ได้ จากนั้นเราจะได้สำรวจแล้วหาความจริงด้วยตัวเอง เจ้าว่ายังไงล่ะเอ็กไซล์? — DannigLogbookSiren |
หากข้าแปลสมุดปูมเดินทางเล่มนี้ได้ถูกต้อง เหมือนว่าพวกเขาจะได้พบกับชนเผ่า... ลิง?... ที่สามารถสื่อสารกันด้วยภาษามือ พวกมันสามารถค้าขายได้ และยังมีรูปปั้นเทพที่ไม่มีใครรู้จักอีกด้วย ข้าได้ได้พบเจอเรื่องมหัศจรรย์กับความอันตรายมากมายในเวร์แคลส์ท แต่ข้าว่าสมุดเล่มนี้ดูไม่น่าเชื่อนัก เรามาสืบหาความจริงดูไหมล่ะเอ็กไซล์? — DannigLogbookMonkeyTribe |
ไม่รู้ว่าข้าเข้าใจสิ่งที่แปลออกมาถูกไหม สมุดปูมเดินทางเล่มนี้พูดถึงตำแหน่งอย่างน้อยหนึ่งแห่งที่เป็นของเผ่า 'มนุษย์ไร้นาม' ที่สักการะสัตว์ร้ายชนิดหนึ่งที่ตายไปเนิ่นนาน คำบรรยายของสัตว์ชนิดนี้มันเข้าใจไม่ได้เลย ทวีปเจ้ามันประหลาดนัก เจ้าสนใจสำรวจพื้นที่นั้นไหมล่ะเอ็กไซล์? — DannigLogbookLostMen |
คนกลุ่มแรกที่ไปสำรวจนครวาล์ต้องสาปก็คือพวกกองอัศวินดวงตะวัน สมุดปูมเดินทางเล่มนี้มาจากยุคแรกเริ่ม หลังจากที่พวกเขาเพิ่งมาถึงเวร์แคลส์ทแล้วพบกับจักรวรรดิอันรุ่งโรจน์เรืองรอง... และเต็มไปด้วยเหล่าผู้คืบคลาน ข้าไม่อาจนึกได้ว่ามีเหตุการณ์สยดสยองเช่นไรที่ทำให้ทั้งอารยธรรมต้องสิ้นซากในครั้งเดียว ข้าเองก็ไม่อยากจะรู้นัก
เราจะตามรอยเท้าพวกเขาไปไหม เอ็กไซล์? — DannigLogbookVaalPlusKnights |
สมุดปูมเดินทางเล่มนี้มีการพูดคุยกันอย่างละเอียดเกี่ยวกับการประกาศของเออห์เทร็ดว่ามณีบารมีนั้นเป็นของที่ไม่สะอาดที่ห้ามแตะต้องเป็นอันขาด ซึ่งมณีเหล่านี้มักจะถูกพบอยู่บนตัว หรือ{ภายใน}พวกศพเดินลากเท้าที่อยู่อาศัยในจักรวรรดิวาล์อันเงียบงัน และความสัมพันธ์ของทั้งสองสิ่งนั้นก็ชัดเจน มันแปลกนักที่กลุ่มชนของข้าเรียนรู้บทเรียนนั้นได้รวดเร็ว แต่เจ้า... เอ่อ เจ้าก็รู้เรื่องมณีนั่นดีกว่าข้า เราจะทำยังไงกันต่อล่ะเอ็กไซล์? — DannigLogbookVaalPlusOrder |
สมุดปูมเดินทางเล่มนี้... ข้าว่าข้าไม่อาจพูดออกมาได้ว่าข้าอ่านอะไรลงไปบ้าง คณะดรูอิดสิ้นวัฏจักรอ้างว่ามีความสามารถในการมองย้อนกลับไปหาอดีต พวกเขาจึงพยายามหาคำตอบเกี่ยวกับชะตากรรมของจักรวรรดิวาล์ที่ตายเกลี้ยงไปทั่วทั้งเวร์แคลส์ท สมุดปูมเดินทางเล่มนี้...
ไม่ ข้าเผชิญกับความกลัวได้ เอ็กไซล์ หากเจ้าต้องการ ข้าจะไป — DannigLogbookVaalPlusDruids |
จุดสังเกตในสมุดปูมเดินทางเล่มนี้ไม่ตรงกับสถานที่ใดที่น่าสนใจภายในแผนที่เดิมของเราเลย ภูมิประเทศมันเปลี่ยนแปลงไปมากในตลอดหลายศตวรรษที่ผ่านมา ข้าทำได้ดีที่สุดแค่การคาดเดาเพียงเท่านั้น เจ้าอยากเลือกจุดหมายปลายทางไหมล่ะ? — DannigLogbookGeneric |
นี่มันน่าทึ่งยิ่งนัก! เราอาจพบกับมันแล้ว! สมุดปูมเดินทางเล่มนี้มีบันทึกสุดท้ายจากผู้บันทึกเล่มนี้ที่พยายามรวบรวมข้อมูลว่าผู้นำผู้ยิ่งใหญ่ของพวกเขาอาจหายไปไหน จากบันทึกที่ข้าเห็น เหมือนว่าหนึ่งในสถานที่เหล่านั้นจะเป็นสถานที่ฝังศพของออลรอธเสียเอง!
อยากก้าวไปหาตำนานกับข้าไหม เอ็กไซล์? — DannigLogbookOlroth |
เหมือนว่าผู้บันทึกมือใหม่คนนี้ติดตามเส้นทางสังหารของวอราน่าในการยืนหยัดสู้จนตัวตายครั้งสุดท้ายของเธอ เราสามารถไล่ตามเส้นทางไปตามภูมิประเทศที่เขาบรรยายเอาไว้ แล้วอาจตามหาสถานที่ฝังศพสุดท้ายของเธอ
ข้าบอกตามตรงนะ ข้าแอบลังเลที่จะทำแบบนั้น ตอนที่เธอมีชีวิตอยู่ ไม่ว่าอย่างไรเธอก็เป็นนักรบอันน่ากลัว ตอนที่เธอตายไปแล้ว เธออาจเกินความสามารถของเจ้าก็เป็นได้ เจ้าเลือกแล้วกัน เอ็กไซล์ — DannigLogbookVorana |
ในบรรดาวีรชนผู้ยิ่งใหญ่ทั้งสี่ เม็ดเว็ดนั้นเป็นวีรชนที่ลึกลับที่สุด เหล่าผู้ครองมนต์ธรรมชาติของเขาเป็นผู้ดูแลสถานพำนักในธรรมชาติทั้งหลายที่ได้รับการคุ้มครอง ถึงแม้ความมืดมิดของเวร์แคลส์ทจะทำให้เขาเสียสติ แต่เขาอาจใช้สถานพำนักพวกนั้นเพื่อทำเรื่องชั่วช้าก็เป็นได้ รายละเอียดในสมุดปูมเดินทางเล่มนี้อาจช่วยนำเราไปหาตำแหน่งที่เขาอาจอยู่ก็เป็นได้ แล้วแต่เจ้าเลยนะเอ็กไซล์ — DannigLogbookMedved |
ในประวัติศาสตร์ช่วงสุดท้ายของกลุ่มชนของเราที่นี่ หัวหน้าผู้บันทึกของเราหลบหนีไปกับผู้รอดชีวิตที่เหลือเพื่อพยายามหลบหนีหายนะที่จะมาถึง นี่คือสมุดปูมเดินทางของเขา เอ็กไซล์! เหมือนว่าภาคีถ้วยจอกพบอะไรบางอย่าง... โบราณวัตถุลึกลับ... เขารู้เพียงว่ากระทั่งคนเก่าแก่ที่สุดยังสัมผัสได้ถึงพลังของมัน แล้วสร้างสถานบูชาให้กับมัน
เออห์เทร็ดหลบหนีไปยังสถานบูชาแห่งนั้นเพื่อหลบหนีความอาฆาตของวอราน่า ผู้รอดชีวิตคิดว่าจะได้พบกับเขาที่นั่น แต่การเขียนหยุดลงก่อนที่จะถึงปลายทาง เราจะย้อนตามรอยเท้าพวกเขาไปไหม? — DannigLogbookUhtred |
เราคือคาลเกอร์ เราใช้ชีวิตไปกับการคุ้ยเขี่ยในโคลนตมแห่งชีวิตมนุษย์เพื่อตามหาชื่อเสียงเพียงเศษเสี้ยว บางคนพบมันในสมรภูมิ บางคนพบมันในการรับใช้ คนอื่นๆ อาสาที่จะเดินทางไปสุดขอบโลกที่รู้จักเพื่อทำภารกิจอันเป็นไปไม่ได้ การเลือกของเราจะเป็นตัวตัดสินตัวตนของเรา และตัวตนของเราย่อมก้องสะท้อนไปสู่ตำนาน — DannigGossipOrigin |
อักขระบนชุดเกราะของเราจะจับและก่อร่างให้กับแสงดารา มันดูจะเจ้าบทเจ้ากลอนไปนิด แต่อย่าเข้าใจผิดเป็นอันขาด เหล่าช่างแห่งคาลเกอร์เปลี่ยนอักขระเหล่านี้ให้เป็นเครื่องมือสังหารมาได้แต่เนิ่นนาน ทันทีที่พวกเขาพบว่าอักขระเหล่านั้นสามารถดลใจให้ศรเข้าเป้า และดลใจให้คมดาบเข้าลึกไปกว่าเดิม ช่างผู้ใหญ่ยิ่งนั้นเป็นที่รู้จักในนามของช่างอักขรา สร้างสรรค์ผลงานที่ปัญญาเลิศเป็นอย่างยิ่ง ถึงแม้จะไม่มีโบราณวัตถุเหล่านี้มากนัก แต่มันก็ไม่จำเป็นต้องมีมากเลย — DannigGossipRunes |
โบราณวัตถุอันทรงพลังที่สุดที่เราเคยรู้จักมานั้น ถูกกองสำรวจกลุ่มแรกนำมาในทวีปนี้เมื่อหลายพันปีก่อน เพลงต่างๆ กล่าวขานว่ามันเผาผลาญสิ่งชั่วร้าย ทำให้ทุ่งที่แปดเปื้อนนั้นบริสุทธิ์ และป้องกันไม่ให้ผู้ที่มีเจตนาร้ายได้เข้าใกล้ เราย่อมต้องการโบราณวัตถุแบบนั้นในช่วงที่มีปัญหาเช่นนี้... แต่จะตามหามันได้ เราก็ต้องย้อนตามรอยของเหล่าผู้มาที่นี่แต่เนิ่นนาน มีเพียงพวกเขาเท่านั้นที่บอกได้ว่าเพลิงทริสเกียลนั้นมีชะตากรรมเช่นไร — DannigGossipTriskelionFlame |
ข้าเชื่อว่า{เจ้า}น่ะเชื่อว่ามณีมีสีเหล่านี้นำพลังมาให้กับเจ้า เอ็กไซล์ ข้าเคยลองใช้มณีเหล่านี้เม็ดหนึ่ง กระทั่งลองพยายาม 'เปิดใช้' มันอย่างที่ทาร์กเลย์ คนท้องถิ่นนั่นอธิบายเอาไว้ แต่มันทำอะไรไม่ได้เลย จะบอกว่าข้าเป็นคนช่างกังขาก็ได้ แต่ข้าว่าพลังมันอยู่ในตัวเจ้ามาโดยตลอดนะ — DannigGossipGems |
ข้าไม่เคยได้ยินเรื่อง 'ทวยเทพ' พวกนี้มาก่อนที่จะเหยียบที่แห่งนี้ แต่ข้ารู้จักอย่างน้อย... {ชายคนหนึ่ง}... ที่คิดว่าตัวเองเป็นพระเจ้า เราย่อมไม่ควรพูดถึงพลังเทวาให้คนที่บ้านเกิดได้รับรู้ — DannigGossipGods |
ข้าจะไม่พูดถึงเรื่อง... {ชาย}คนนั้นเป็นอันขาด — DannigGossipTheKing |
เราไม่มีทางตีความความหมายที่แท้จริงของลางร้ายนั้นได้ แต่ไม่มีใครปฏิเสธได้ว่ามันเคยเกิดขึ้นมาก่อน แผ่นดินสั่นสะเทือน เมฆในยามราตรีจากลา ผู้คนสั่นเทาและหลบหนี ร่องรอยดวงดาวทอดผ่านไปทั่วฟากฟ้า ตกลงมาเป็นไฟเผาป่าของเรา แล้วดวงตะวันสีเลือดก็ปรากฏบนฟากฟ้า มันสว่างเสียจนดวงจันทร์เสี้ยวกลายเป็นจันทร์เต็มดวงสีแดงก่ำ — DannigSagaBeforeArrival |
เกิดเรื่องราวมหัศจรรย์และเลวร้ายขึ้น กษัตริย์แคดิแกนที่สามจึงบัญชาให้กองเรือเดินทางไปยังขอบฟ้า นำโดยเหล่านักรบของเราผู้ใหญ่ยิ่ง และนำเพลิงทริสเกียลไปเพื่อเป็นการคุ้มครอง ในเมื่อข้ามีหน้าที่ที่ผูกพันกับเพลิงนั้น ข้าจึงเข้าร่วมเป็นหัวหน้าผู้บันทึกนั่นเอง เราออกเดินทางภายในเดือนหนึ่ง — DannigSagaTheJourneyI |
การเดินทางผ่านทะเลอันดื้อรั้นและโกรธเกรี้ยวใช้เวลาเกือบสองฤดูกาล โดยที่เราแทบไม่ได้มองเห็นท้องฟ้าผ่านเมฆสีดำ เต็มไปด้วยสายฟ้าสีเลือด เราไม่อาจดื่มน้ำฝน หรือกินปลาได้ จนกว่าเพลิงนั้นจะทำให้น้ำสะอาด หรือทำให้เนื้อนั้นบริสุทธิ์ แต่ไม่ว่ายังไงการยังชีพก็แย่นัก พอถึงยามที่เราเห็นชายฝั่งมาแต่ไกล เสบียงของเราหมดเกลี้ยง คนของเราหิวโหย — DannigSagaTheJourneyII |
เท้าแรกที่เหยียบย่ำแผ่นดินนี้ถูกขย้ำขยี้ไปด้วยคมเขี้ยวภายใต้ผืนทราย ไม่มีลางร้ายใดที่เห็นได้ชัดไปกว่านี้อีกแล้ว เราได้ฝ่าเส้นทางอันโหดเหี้ยมไปตามผืนทราย ขับไล่เดรัจฉานใต้น้ำ แต่กลับพบผีสยองที่เดินลากเท้าในหมู่ไม้ เราเสียเลือดเนื้อไปทุกย่างก้าว — DannigSagaArrivalI |
ในคืนที่เจ็ด เมฆอันมืดมนนั้นจากไป แล้วดวงดาวทรงโปรดของเราก็ปรากฏ ออลรอธปักเพลิงทริสเกียลไว้ตรงกลางปราการของเรา พิธีกรรมม่านพลังเสร็จสิ้น เรารู้สึกปลอดภัยขึ้นมาเล็กน้อย จากตรงนั้น ทุกอย่างก็เติบโต เหมือนกับดอกไม้ที่เบ่งบานภายใต้เงาไม้นั่นเอง — DannigSagaArrivalII |
เมื่อกองอัศวินดวงตะวันเดินทางลึกเข้าไปในเกาะ เราพบซากอารยธรรมจักรวรรดิอันยิ่งใหญ่ทัดเทียมกับบ้านเกิดของเรา มีศพมากมายที่ไหม้เกรียม แต่มีศพอีกมากมายที่ไม่ยอมตาย หลายต่อหลายศพนั้นประดับประดาไปด้วยมณีอันส่องประกายที่ดึงดูดสายตาและเพรียกหาเรา พวกสิ่งชั่วช้าเหล่านี้ที่ยังเดินได้มักมีมณีเหล่านั้นฝังในอวัยวะพวกเขา เออห์เทร็ดสังเกตเห็น จึงประกาศว่าคริสตัลเหล่านี้เป็นของไม่สะอาด ไม่มีใครสักคนในหมู่พวกเราที่ต้องการแย้ง — DannigSagaArrivalIII |
กองทองเป็นภูเขากระจัดกระจายไปทั่วซากจักรวรรดิ โดยมักถูกคุ้มครองจากเหล่ามณีชนที่อันตรายและประดับประดาอย่างหรูหรายิ่ง แม้พวกเขาจะมีสภาพเป็นอสุรกาย แต่พวกชนชั้นสูงกับนักบวชเหล่านี้ยังตระเวนรอบทรัพย์สมบัติเหล่านี้ ไม่ยอมปล่อยให้สิ่งที่มีค่ากว่าชีวิตของพวกเขาหลุดรอดไปจากเงื้อมมือเป็นอันขาด พวกเขาไม่ได้ตายไปตามถนนเหมือนกับเหล่าผู้ที่พยายามหลบหนี พวกเขาได้ล็อก ปิดตายวิหารของพวกเขาเอาไว้ ปิดตายพวกเขาเอาไว้ในสุสานของตัวเอง — DannigSagaArrivalIV |
เหล่าชนชั้นสูงแห่งอุทซาลได้เปิดทางน้ำของพวกเขา แล้วตั้งใจลงน้ำให้จมน้ำตายกันไปเอง ไม่ได้ทำด้วยความเมตตาใดๆ แต่ทำด้วยความเย้ยหยันต่อผู้ที่คิดจะปล้นสะดมพวกเขาในอนาคต นี่เป็นจักรวรรดิที่ถูกปกครองโดยคนสิ้นสติ พวกเขาเย้ยหยันได้สำเร็จ เพราะเราไม่สามารถถ่ายน้ำอันแสนอันตรายพวกนี้ได้ และทรัพย์สมบัติของพวกเขาหายไปตลอดกาล แต่ว่าเมืองอื่นๆ ก็เป็นแหล่งความมั่งมีมหาศาลที่หาได้อย่างเชื่องช้าและมั่นคง — DannigSagaArrivalV |
กษัตริย์แคดิแกนที่สามมองว่าแผ่นดินใหม่กับสมบัติใหม่นี้เป็นรางวัลสาธารณะที่ใครก็เข้ามาครอบครองได้ เหล่าช่างฝีมือมาถึงที่นี่ก่อน ตามมาด้วยเรือที่เต็มไปด้วยพ่อค้ากับอิสรชน แล้วพวกผู้หญิงกับเด็กๆ ก็ตามมา พอถึงปีที่สาม ก็เกิดเป็นหมู่บ้านจัดตั้งแห่งแรกขึ้น ทุกอย่างนั้นรุ่งเรืองตราบใดที่เพลิงทริสเกียลเจิดจ้า แต่ในไม่ช้าก็มีพวกเรามากเกินกว่าที่มันจะคุ้มครองได้หมด — DannigSagaColonisationI |
เหล่าทหารรับจ้างเคียวดำภายใต้การนำของวอราน่าได้คิดค้นกลยุทธ์ในการปกป้องและการสังหาร ซึ่งช่วยขยายอาณาเขตที่เราสามารถคุ้มครองได้ ระยะห่างนั้นถือเป็นเรื่องสำคัญ คนของเธอถือหน้าไม้อยู่ด้านหลังกำแพงอันแข็งแกร่ง สังหารภัยสยองได้ทีละตัว ฉีกทึ้งพวกมันเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อยจนไม่สามารถเคลื่อนไหวได้อีกต่อไป เรากล้าที่จะเชื่อว่าเราสามารถคุมทวีปที่ถูกทอดทิ้งได้ด้วยวิธีการอันธรรมดาและเรียบง่ายเช่นนี้ โดยมีการจัดตั้งหมู่บ้านอีกสิบแห่งในปีนั้น — DannigSagaColonisationII |
เริ่มมีการค้าขายกับชายเกาะกับชาวเขาตามเส้นทางอันแสนไกล ถึงแม้เราจะไม่ใช้ภาษาร่วมกัน และไม่สามารถเข้าอกเข้าใจกันได้ แต่ข้าได้บันทึกเพลงของชาวเกาะเอาไว้เพื่อทำการตีความในภายหลัง และข้าได้พบกับผู้รอดชีวิตจากจักรวรรดิที่ล่มสลายในหมู่ชาวเขาอีกด้วย — DannigSagaColonisationIII |
ผู้รอดชีวิตจากจักรวรรดิที่ล่มสลายมิได้มีมณีที่เราได้พบเจอในหมู่ศพเดินลากเท้า เมื่อข้าวาดรูปมณีลงไปในดิน ก็บังเกิดความแตกตื่นขึ้น เราถูกขับไล่จากภูเขา เมื่อพระองค์ทรงได้ยินเช่นนี้ กษัตริย์แคดิแกนที่สามจึงสั่งห้ามคริสตัลเหล่านี้อย่างเป็นทางการ และไม่มีการเก็บหรือขนส่งมณีเหล่านั้นไปยังบ้านเกิดอีกต่อไป — DannigSagaColonisationIV |
พอถึงกาลที่กษัตริย์แคดิแกนที่สี่ทรงครองราชย์ในบ้านเกิด เราก็มีหมู่บ้านมามากเกินที่จะนับ เหล่าผู้ขัดแย้ง ผู้ที่สังคมรังเกียจ ฝ่ายศาสนา กับกลุ่มชนผู้สาบสูญต่างเดินทางมาสร้างชีวิตใหม่ในแผ่นดินใหม่แห่งนี้ โดยที่พวกเขาไม่ต้องการตอบรับต่อเหล่าอัศวิน และกลุ่มเมืองชายขอบรอบนอกเหล่านั้นเป็นกลุ่มแรกที่ได้พบกับภัยสยองใหม่ พวกเขาเผชิญกับภัยเหล่านี้อย่างเงียบงัน เพราะพวกเขาไม่อาจยอมรับต่อคนนอกว่ากำลังเผชิญกับภยันตรายที่ไม่อาจพิชิตได้ด้วยตนเอง — DannigSagaDarknessDescendsI |
บุรุษสตรีที่ล้มตายตรงชายขอบกลายเป็นเดรัจฉานผู้คืบคลานอยู่ในความมืดมิด เพลิงทริสเกียลไม่ได้ลบล้างคำสาปออกไปจากแผ่นดินนี้ เพียงแต่กำราบมันไว้ชั่วคราวเท่านั้น ความตายของกลุ่มชนของเราทำให้คำสาปนั้นแข็งแกร่งขึ้น — DannigSagaDarknessDescendsII |
เหล่าผู้ครองมนต์ธรรมชาติของเม็ดเว็ดประกาศว่าพวกเขาพบลมหายใจหรือไอที่ออกมาจากคนหนึ่งยามวางวาย ซึ่งจะมองเห็นก็ต่อเมื่อเขาสิ้นลมใกล้กับมณีต้องห้ามเพียงเท่านั้น ในยามที่มณีนั้นดึงดูดไอนั้นไป เม็ดเว็ดประกาศว่าทุกคนย่อมมีแก่นแท้บางอย่างที่ยังไม่เป็นที่เข้าใจ ด้วยเหตุนี้ เออห์เทร็ดจึงประกาศว่าเขาเป็นผู้นอกรีต และทำการเนรเทศภาคีของเขาไปสู่ชายขอบ เม็ดเว็ดได้ชดใช้ด้วยทรัพย์อย่างหนักเพื่อละเว้นการเนรเทศครั้งนี้ ประเด็นนี้จึงถือว่าจบลงด้วยดี — DannigSagaDarknessDescendsIII |
ในฤดูหนาวของปีนั้น กองคาราวานกับเหล่าผู้วิ่งที่ถูกส่งไปสู่ชายขอบนั้นไม่ได้กลับมาอีก ออลรอธส่งกองอัศวินดวงตะวันผ่านป่าและภูเขาอันหนาวเหน็บเพื่อออกตามหาพวกเขา แล้วก็พบว่าเหล่ากลุ่มที่ออกไปสู่ชายขอบได้สูญเสียคนจำนวนมาก และได้พบกับภัยสยองที่ไม่เคยพบเจอมาก่อน — DannigSagaDarknessDescendsIV |
ออลรอธกับกองอัศวินของเขาได้ถอยออกมาจากชายขอบ แล้วจุดไฟสู่ป่าแห่งนั้น เพลิงไฟขนาดมหาศาลได้ลุกลามจากแม่น้ำทางตอนใต้ไปจนถึงผืนทรายทางตอนเหนือ ไม่มีใครพูดถึงเหตุผลที่กระทำรุนแรงเช่นนี้ เมื่อเขากลับมา ออลรอธได้ขยายอิทธิพลของเพลิงทริสเกียล ถึงแม้ม่านพลังแสงดาราจะอ่อนแอกว่าเดิมเมื่อปกป้องอาณาเขตขนาดใหญ่ แต่มันก็เป็นเรื่องจำเป็นในการปกป้องหมู่บ้านเหล่านั้น ออลรอธผู้หาญกล้าได้ปลีกวิเวกไปอย่างบ่อยนัก และถูกขนานนามว่าเป็นออลรอธผู้มืดมน — DannigSagaDarknessDescendsV |
นี่เป็นฤดูใบไม้ผลิที่ชั่วช้าสิ้นดี! ในคืนเดือนมืด ไอ้ปีศาจตาเปล่าได้พรากคนของเราไปอีกคน คราวนี้เป็นหญิงสาวที่มีกำหนดว่าจะฝึกเป็นนักรบเมื่อเธอผ่านพิธีที่สอง หลายต่อหลายคนได้แพ้พ่ายให้กับภัยสยองในแผ่นดินต้องสาปแห่งนี้ในยุคแรกเริ่ม แต่ข้าเชื่อว่าเราได้กำราบความมืดมิดได้ด้วยพิธีชำระล้างของเราแล้ว
ข้าคิดผิด การปลูกอาหารที่ไม่มีพิษนั้นไม่เหมือนกับการรักษาความปลอดภัยให้กับพวกพันธุ์มืด มันเหมือนกับว่าแผ่นดินต้องสาปนี้เรียนรู้จากชัยชนะของเรา แล้วบิดเบือนพวกเดรัจฉานในแนวทางใหม่ๆ ที่เอาชนะการป้องกันของเราได้ — DannigSagaOlrothsJournalI |
เม็ดเว็ดกับเหล่าผู้ครองมนต์ธรรมชาติได้คิดค้นยุทธวิธีการศึกใหม่ขึ้นมา ซึ่งเป็นกลยุทธ์ที่ศาสนาของเขาสั่งห้ามเอาไว้ เขาได้สังเกตว่าภัยสยองเหล่านี้มีศักยภาพที่จะเติบโตและเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วมาโดยตลอด และเขาเสนอว่าเราอาจทำพลาดในการทำภารกิจไม่เสร็จสมบูรณ์
เมื่อเรากวาดล้างพวกเวอร์นิคูเลียทั้งหมด เว้นแต่พวกที่แข็งแกร่งที่สุด พวกแข็งแกร่งที่อยู่รอดก็ขยายพันธุ์ต่อไปได้ พร้อมสืบทอดความอันตรายของมันต่อไป หากเราจะครองชัยชนะอย่างแท้จริงแล้วปกป้องหมู่บ้านที่กระจายตัวขึ้นไปทุกที เราจะต้องกำจัดให้สิ้นไปทุกสายพันธุ์ เราจะต้องตัดชิ้นส่วนหนึ่งของอวัยวะออกไปโดยสิ้นเชิง หากเราทำได้น้อยไปกว่านั้น เราย่อมเร่งให้หายนะเข้าใกล้ขึ้นมาทุกที — DannigSagaOlrothsJournalII |
พวกวอร์นิคูเลียถูกล้างบางสิ้นไปหมดแล้ว พวกมันจะไม่ทำให้แผ่นดินนี้แปดเปื้อนไปด้วยพิษร้ายของมันอีกต่อไป ถึงแม้จะมีพวกพันธุ์มืดอื่นๆ อีกมากมายที่เฝ้ารอในความมืดของแผ่นดินต้องสาปแห่งนี้ แต่ชัยชนะเล็กน้อยก็ยังถือเป็นชัยชนะ อัศวินของข้ากับกลุ่มคนของวอราน่านั้นแข็งแกร่งพอจนไม่มีใครล้มตายไปในการเผาป่ากับพุ่มเตี้ยจนสิ้น วันนี้เป็นวันดีที่หายาก เป็นวันที่เราไม่มีเหตุให้ไว้อาลัย
ข้ากลับไปนึกถึงหน้าที่ที่ยังไม่เสร็จสิ้น ปีศาจตาเปล่าตัวนั้นไม่เหมือนกับตัวอื่น ข้าจะต้องใช้คบเพลิงกับคมดาบขจัดให้มันหายไปจากโลกใบนี้ — DannigSagaOlrothsJournalIII |
เหล่าอัศวินดวงตะวันทั้งหลายต่างล้มตายอยู่ทั่วป่าเขาจากการออกตามหาปีศาจตาเปล่า ข้าเอาดาบฟันเข้าไปในคอของมัน แต่แผลนั้นไม่ทำให้มันเลือดออก มันไม่ใช่สิ่งมีชีวิต มันกัดกินด้วยซี่ฟันบนแขน ไม่ได้กัดกินเพื่อเอาตัวรอด แต่กัดกินเพื่อลิ้มรสเสียงกรีดร้องของเหยื่อของมัน ข้าพบเห็นในดวงตาทั้งสองอันว่างเปล่าที่อยู่บนหน้าอันเน่าเปื่อยของมัน มัน... ยิ้มให้กับข้า... ในยามที่มันกัดกินอัศวินลูกมือของข้าจนขาดเป็นสองท่อน
เพลิงมนุษย์นั้นไม่ช่วยอะไร อาวุธมนุษย์ไม่ช่วยให้เลือดออก ข้าจำต้องคิดถึงทางออกต้องห้าม เม็ดเว็ดกับเหล่าผู้ครองมนต์ธรรมชาติของเขาต่างทอดทิ้งหลักการอันเป็นแก่นแท้ของพวกเขาเพื่อให้เอาตัวรอดได้ ข้าเองก็ต้องทำเช่นกัน เหล่าชาวเขาเคยเตือนข้าเรื่องมณีที่นำมาซึ่งพลัง แต่ว่าข้าไม่มีทางเลือกอีกต่อไป... — DannigSagaOlrothsJournalIV |
ช่างเบิกบาน! ช่างตรึงใจยิ่งนัก! ข้าเดินทางไปในค่ำคืนเพียงลำพัง โดยใส่มณีต้องห้ามไว้ในด้ามดาบที่เคยไร้ประโยชน์ คราวนี้ข้ากลับมาพร้อมกับหัวปีศาจนั่น แม้มันจะตายด้วยการแสยะยิ้ม แต่มันก็ถูกพิชิตแล้ว มณีเม็ดนั้นลุกโชนไปด้วยแสงสว่างจากโทสะของข้า เสกเอาลำแสงดาราที่ทำให้การฟันที่คลาดเป้าให้กลายเป็นการฟาดฟันอันสังหาร
เราโง่มาตลอดที่ปฏิเสธพลังนี้ ความผิดพลาดของเราทำให้กลุ่มชนของเรามากมายต่างต้องทุกข์ทรมาน เมื่อแสงตะวันส่องมายังยอดไม้ ข้าจะสั่งให้เหล่ากองอัศวินดวงตะวันที่ยังเหลือรอดออกตามหามณีต้องห้ามพวกนี้ มันได้เวลาที่เราจะยึดแผ่นดินนี้ ทำให้มันปลอดภัยไปตลอดกาล — DannigSagaOlrothsJournalV |
ในฤดูร้อนที่กองอัศวินดวงตะวันเริ่มฝังเอามณีต้องห้ามเข้าไปในอาวุธกับชุดเกราะของพวกเขา เม็ดเว็ดจากคณะดรูอิดวัฏจักรได้ออกมาหากลุ่มชน "อดีตอนาคตกาลนั้นถูกบดบังไปเสียสิ้น บ่อมองกาลในแดนนี้มักจะแปดเปื้อนไปด้วยหมอกสีเลือด แต่นี่เป็นเรื่องใหม่ ในคืนที่ออลรอธออกไปตามลำพัง ข้าไม่อาจมองเห็นอดีตได้อีก ดังนั้นเราจึงไม่อาจล่วงรู้ถึงอนาคตได้อีกต่อไป" หลังจากนั้น ภาคีของเขาจึงถูกขนานนามว่าคณะดรูอิดสิ้นวัฏจักร — DannigSagaTheBrokenCircleI |
ผู้หญิงที่คลุมหน้าได้พูดกับเม็ดเว็ดในจัตุรัส ภายใต้หอกที่ปักศีรษะของปีศาจตาเปล่าเอาไว้ "เจ้าได้เสียศรัทธาของเจ้าไปแล้วหรือ ดรูอิดระดับสูง"
เม็ดเว็ดตอบกลับ "ผู้ที่ไม่ได้ศึกษาอดีตย่อมไม่อาจรอดพ้นจากการซ้ำรอยอดีต แต่ผู้ที่ไม่สามารถศึกษาอดีตนั้นไม่มีอนาคตแม้แต่น้อย วงนั้นได้ขาดแล้ว"
ผู้หญิงคนนั้นได้ดึงผ้าคลุมหน้าของเธอออกมา เผยตนว่าเป็นวอราน่า ผู้นำแห่งเคียวดำ เธอตอบ "งั้นหันมาจับอาวุธเสีย เราจะต่อสู้ฟันฝ่าไปในช่วงเวลาระหว่างอดีตกับอนาคต"
เม็ดเว็ดรับของขวัญของเธออันได้แก่ขวานสองเล่ม แล้วเริ่มฝึกภาคีของเขาให้พร้อมกับการต่อสู้ ขวานทั้งสองเล่มมีมณีในด้ามขวานอันมีพลังมหาศาล — DannigSagaTheBrokenCircleII |
คณะดรูอิดสิ้นวัฏจักรกับกองทหารรับจ้างเคียวดำได้ส่งกองกำลังไปยังบริเวณใกล้กับชายขอบเพื่อช่วยเหลือกองอัศวินดวงตะวัน กองอัศวินนี้สูญเสียคนไปครึ่งหนึ่งในการออกตามล่าปีศาจตาเปล่า แม้ว่าม่านพลังแสงดารานั้นจะถูกแผ่ขยายและอ่อนแอ แต่เหล่านักรบที่เสริมกำลังมาใหม่ได้ใช้พลานุภาพของมณีเพื่อกันไม่ให้ภัยสยองยามค่ำคืนเข้ามารุกราน ต่างฝ่ายต่างคุมเชิงกันมาหลายต่อหลายฤดูเสียจนบังเกิดวีรชนผู้ยิ่งใหญ่หลายต่อหลายคนจากวีรกรรมของพวกเขา แอนเนสต์ บุตรสาวของเม็ดเว็ดกับวอราน่าถูกส่งกลับไปยังบ้านเกิดเพื่อให้ถูกเลี้ยงดูอย่างปลอดภัย ส่วนบุตรของออลรอธที่เข้าใกล้พิธีแรกของเขาได้เดินทางไปกับเธอในฐานะผู้ปกครอง — DannigSagaTheBrokenCircleIII |
ทุกคนต่างสะพรึงกลัวเมื่อเกิดเรื่องที่เกินคาดคิดขึ้นมา: มีหัวหน้าภัยสยองเกิดขึ้นมา ซึ่งสามารถคิดและทำสิ่งต่างๆ อย่างชาญฉลาดได้ พวกเดรัจฉานเริ่มเข้าจู่โจมในจุดที่ม่านพลังแสงดารานั้นอ่อนแอที่สุด หรือจุดที่กองลาดตระเวนมิได้สัญจรผ่าน เม็ดเว็ดมีความคิดบางอย่างที่ไม่ได้บอกเอาไว้ เขาส่งผู้ส่งสารไปยังความมืดมิด โดยที่ผู้ส่งสารถูกไว้ชีวิตให้กลับมาพร้อมกับจดหมาย เหมือนว่าคำพูดในนั้นจะยืนยันสิ่งที่เม็ดเว็ดเกรงกลัวมาตลอด เขาเดินทางไปในยามค่ำคืนเพื่อท้าทายหัวหน้าศัตรูคนใหม่ผู้นี้ เขาไม่ได้กลับมา — DannigSagaTheBrokenCircleIV |
เหล่านักบวชมีหูตาอยู่ทุกที่ในฤดูที่เม็ดเว็ดหายตัวไป นักบวชชั้นสูงเออห์เทร็ดเข้าใจว่ามีการทรยศ และสั่งให้ลูกศิษย์สังเกตการณ์การเดินทางเข้าออกของผู้นำคนอื่นเอาไว้ พวกเขาพบว่า หลังจากที่ออลรอธผู้มืดมนได้ใช้เวลาแต่ละวันทุ่มเทไปกับการต่อสู้เสียจนเหนื่อยล้า เขาจะกลับไปอยู่เพียงลำพัง และหลังจากเวลาผ่านไปพักหนึ่ง เขาจะออกไปทางประตูอื่น แอบย่องเข้าไปในความมืดมิดโดยไม่มีผู้ใดสังเกต ขณะที่เขาออกเดินทาง เขามักปิดตาราวกับว่ากำลังหลับใหล — DannigSagaThePriesthoodI |
เออห์เทร็ดคิดแผนหลอกลวงมามากมาย ซึ่งขณะนั้นเขาส่งบุตรชายของเขา โอเว็น กลับไปยังบ้านเกิดเพื่อเลี่ยงการลงโทษ ในสัปดาห์หนึ่งหลังการเก็บเกี่ยว ในช่วงเย็นอันเยือกเย็น นักบวชสิบสองคนเฝ้ารอออลรอธภายนอกคุ้มของเขา พวกเขาใช้มีดศักดิ์สิทธิ์เสียบแทงออลรอธในสภาวะที่เขาเดินละเมอ เขาถูกแทงไปเสีย 71 แผลแล้วร่วงลง วอราน่าปรี่พุ่งมาราวกับสายลมสีดำ กุดหัวคนทั้งสิบสองในการตวัดอาวุธเพียงครั้งเดียว — DannigSagaThePriesthoodII |
ออลรอธถูกวางไว้บนแคร่ เขาถูกพยาบาลไปด้วยยา ผ้าพันแผล กับสมุนไพรต่างๆ กลุ่มชนต่างเรียกร้องให้คณะนักบวชชดใช้ด้วยเลือด แต่เออห์เทร็ดอ้างว่าเขาไม่มีส่วนรู้เห็นเกี่ยวกับผู้ทรยศทั้งสิบสอง ผู้นำผู้ใหญ่ยิ่งของกลุ่มชนใกล้กับความตาย พวกเขาผนึกเขาไว้ในโลงแก้วเพื่อกันไม่ให้ลมหายใจของเขาหลุดรอดออกไป — DannigSagaThePriesthoodIII |
ผู้หญิงที่คลุมหน้าได้พูดกับเออห์เทร็ดในจัตุรัส ภายใต้หอกที่ปักศีรษะของปีศาจตาเปล่าเอาไว้ "ทำไมเจ้าถึงคิดว่าเหล่านักบวชของเจ้าได้ดักโจมตีออลรอธเช่นนั้นเล่า?"
เออห์เทร็ดตอบกลับ "ทำไมเจ้าถึงคิดว่าออลรอธหายไปในความมืดมิดเล่า? เขาเป็นหัวหน้าคนใหม่ของภัยสยองอันผิดเพี้ยน เขาต่อสู้ให้กับเราในยามกลางวัน เขาต่อสู้ให้กับพวกมันตอนกลางคืน"
ผู้หญิงคนนั้นได้ดึงผ้าคลุมหน้าของเธอออกมา เผยตนว่าเป็นวอราน่า ผู้นำแห่งเคียวดำ เธอตอบ "ข้าควรจะฆ่าเจ้าให้ตายจากที่เจ้าพูดไว้ตรงนี้"
ด้วยเคียวที่จ่อคอหอย เออห์เทร็ดตอบ "หากเจ้าต้องการฆ่าข้า ก็เชิญฆ่าในหนึ่งสัปดาห์ หากศัตรูของเรานั้นไร้ระเบียบไร้ชีวิตชีวาในยามที่ออลรอธอยู่ในโลงกระจก เจ้าจะรู้ว่าที่ข้าพูดนั้นเป็นเรื่องจริง"
วอราน่าให้คำมั่น "หากเจ้าคิดผิด ข้าจะเอาหัวเจ้าไปป้อนให้กับปีศาจตาเปล่าตรงนี้ด้วยตัวเอง"
แล้วเธอก็จากไป ในสัปดาห์นั้นศัตรูมิได้ไร้ระเบียบหรือไร้ชีวิตชีวาแม้แต่น้อย เออห์เทร็ดหนีเข้าไปหลบซ่อนในสถานที่ดึกดำบรรพ์อันทรงพลังแห่งหนึ่ง — DannigSagaThePriesthoodIV |
ในสัปดาห์ที่วอราน่าได้ให้คำมั่น ก็มีผู้นำคนใหม่ในหมู่ภัยสยอง มันถือขวานสองเล่ม และมองหาเหล่าวีรชนที่ได้สร้างชื่อแก่ตนเอง โดยท้าทายให้พวกเขาต่อสู้เป็นการส่วนตัว มันสังหารไป 42 คน คืนละคน เมื่อวอราน่าได้เผชิญกับสิ่งชั่วช้าเช่นนี้ เธอเข้าใจว่ามันคือเม็ดเว็ด ชายที่เธอรัก แต่เธอไม่อาจเชื่อได้ลง เธอสั่งให้ถอยกำลัง และไม่ยอมรับคำท้าทายครั้งนี้ มีสองหมู่บ้านที่ถูกทำลายสิ้น — DannigSagaTheLastToFallI |
เมื่อเธอเข้าใจว่าเออห์เทร็ดคิดถูกที่พูดจาเลวร้ายต่อเหล่าผู้ยิ่งใหญ่ เธอส่งคนเดินสารไปพูดคุยกับเขา เธอคิดแผนที่จะปรับเพลิงทริสเกียลแล้วดึงม่านพลังแสงดารากลับมา มันจะได้คุ้มครองหมู่บ้านไม่กี่แห่งอย่างสมบูรณ์ แทนที่จะคุ้มครองทั้งเขตอย่างอ่อนแอ กลุ่มชนผู้รอดชีวิตถูกอพยพไปยังกลางแผ่นดิน และวอราน่าพบพิธีกรรมปรับเพลิงที่ถูกต้องในบันทึกของออลรอธ เธอส่งข้อความเหล่านี้ไปให้กับเออห์เทร็ดผ่านผู้ส่งสารของเธอ — DannigSagaTheLastToFallII |
หมู่บ้านตรงใจกลางนั้นแออัดไปด้วยผู้คนมากมาย ส่วนเหล่านักรบจากกองอัศวินดวงตะวัน เคียวดำ และสิ้นวัฏจักรที่ถูกล้อมรับต่างได้ถอนทัพ ทว่าม่านพลังแสงดารามิได้หดลง แต่มันกลับหายไป วอราน่ารีบวิ่งไปยังแท่นของเพลิงทริสเกียล แต่มันหายไป เรือในท่าเรือต่างถูกเผาทำลายสิ้นจนอับปางไปทุกลำ เว้นแต่ลำเดียวที่ได้ออกจากท่า
เธอตะโกนแก่ปวงประชาว่า "เออห์เทร็ดผู้ทรยศได้ขโมยเพลิงไปแล้ว!"
กลุ่มชนร้องระงมอย่างสิ้นหวังในยามที่ภัยสยองบุกเข้ามาจากทั่วสารทิศ ในเมื่อไม่มีม่านพลังดารา ก็ไม่มีการคุ้มครอง หมู่บ้านใจกลางกลายเป็นปราสาทสุสาน คุ้มภัยและห่อหุ้มไปด้วยกำแพงกับเหล็ก แต่ไม่อาจหนีได้พ้น พวกเราหลายคนหลบหนีไปยังที่ฝังศพของออลรอธ พบว่าโลงแก้วของเขาแตกสลาย เขาได้ฟื้นขึ้นมาแล้ว และเราต้องเชื่อว่าเขากำลังออกไปต่อสู้ในความมืดมิดเพื่อช่วยชีวิตพวกเรา ไม่ว่าเออห์เทร็ดผู้ทรยศจะอ้างอย่างไรก็ตาม — DannigSagaTheLastToFallIII |
วอราน่าส่งผู้ส่งสารไปยังชาวเกาะกับชาวเขาเพื่อขอความช่วยเหลือ แต่ไม่มีใครรู้ถึงชะตากรรมของพวกเขา ผู้ป้องกันทั้งหลายต่างอาจหาญ แต่ก็ไม่มีเพลิงที่จะชำระล้างอาหารใหม่ๆ ให้บริสุทธิ์ ความอดอยากคืบคลานเข้ามา และฤดูต่างๆ ก็ผ่านไปอย่างว่องไวยิ่ง วอราน่าทั้งซูบผอมและอ่อนแอ เธอจึงตระหนักว่าการรอคอยนั้นคือความตาย เธอรู้ว่ามีวิธีการที่จะเพิ่มพละกำลังของเธอ เธอจึงทำพิธีกรรมต้องห้าม แล้วฝังมณีเข้าไปในกายของเธอ — DannigSagaTheLastToFallIV |
กาลนั้นเธอลุกขึ้น ออกไปจากกำแพง เก็บเกี่ยวความตายจากพวกภัยสยองยามค่ำคืนด้วยการตวัดเคียวของเธอ พวกมันไม่อาจต้านทานความอาจหาญของเธอได้ เธอเรียกหาพวกเรา "ข้าจะไม่หยุดพักจนกว่าไอ้พวกชั่วช้าพวกนี้จะตายสิ้น!"
พวกเราบางคนเชื่อว่าเธอสามารถฆ่าอสุรกายทุกตัวในแผ่นดินที่ถูกทอดทิ้งแห่งนี้ได้ แต่คนอื่นๆ ไม่ได้มองอะไรในแง่ดีเช่นนั้น หากวอราน่าไม่กลับมา พวกเขายังมีทางออกอีกทางหนึ่ง ซึ่งเป็นทางออกที่พวกเราไม่กล้าออกไปตั้งแต่แรก มันเป็นทางออกที่แฝงอยู่ใต้แผ่นดิน เก่าแก่ยิ่งกว่าผู้ที่ชราที่สุด... เราจะต้องรักษาความหวังเอาไว้ นี่ไม่ใช่จุดจบของกลุ่มชนของเราในแผ่นดินนี้ แม้ราตรีจะบังเกิด แต่รุ่งอรุณย่อมตามมาเสมอ — DannigSagaTheLastToFallV |
ยิ่งใหญ่นัก! — DannigEncounterCompleteRandom |
ยิ่งใหญ่นัก! — DannigEncounterComplete2 |
ยิ่งใหญ่นัก! — DannigEncounterComplete3 |
ฮ่า! — DannigEncounterComplete4 |
ฮ่า! — DannigEncounterComplete5 |
ฮ่า! — DannigEncounterComplete6 |
The hero returns! We simply must hear your glorious tale! That battle certainly sounds like one for the ages! The Triskelion Flame was destroyed, I take it? Yes... I expected as much. Wraeclast is a torturous mistress... all we can do is press on. Triumph is not found in a single victory, but in the will to keep working on a task that may never end. This isn't the first time I thought our long search was finally over, and it won't be the last. — ออลรอธ |
That battle certainly sounds like one for the ages! The Triskelion Flame was destroyed, I take it? Yes... I expected as much. Wraeclast is a torturous mistress... all we can do is press on. Triumph is not found in a single victory, but in the will to keep working on a task that may never end. This isn't the first time I thought our long search was finally over, and it won't be the last. — ออลรอธ |
Twenty years is a very long time to search for something. I've wanted so badly to find the Flame, and for so long... it's an agonizing feeling, a close kin to madness, to finally find what you seek—only to cause its destruction. For years, I lived with that secret, that pain, that I kept from the others. And then... I found Olroth again. The Flame, too. Was the first a fake? My heart soared at the prospect of another chance, only to have my hopes dashed for a second time. Then, a third. And a fourth. Every few years, Wraeclast twists the knife in my gut. Are these memories real? Are they nightmares? This land has become my home, but I'll never feel truly at ease so long as the very earth itself offers up twisted lies... and I can never give up, either, because I still hold on to the maddening hope that the next one might really be it... or the hope that, if I send you instead, things might turn out differently... — เพลิงทริสเกียล |
We are on a grand quest through time! We'll have to save the explanations for another time, however. All I can say is, we purposely came back to this city, Utzaal, before our own ancestors arrived on Wraeclast. {Will} arrive on Wraeclast, I mean. We've got less than a year to achieve our aims. We have to be gone before they get here, or my historical sagas will get very complicated, very quickly. — ภารกิจใหญ่หลวง |
Hail, hero! I knew I'd find you here. You've made it this far. Clearly, you must have some talent. Care to lend your skills to a matter of honour? — แนะนำตัว |
You've made it this far. Clearly, you must have some talent. Care to lend your skills to a matter of honour? — แนะนำตัว |
A wasteland will be a decent place for a battle. — DannigEndgame_LB_Atoll_Random |
A wasteland will be a decent place for a battle. — DannigEndgame_LB_Atoll_2 |
Nothing there to get in the way of our detonations. Good. — DannigEndgame_LB_Atoll_3 |
Nothing there to get in the way of our detonations. Good. — DannigEndgame_LB_Atoll_4 |
Let's get digging! — DannigEndgame_LB_Atoll_5 |
Let's get digging! — DannigEndgame_LB_Atoll_6 |
Let's get digging! — DannigEndgame_LB_Atoll_7 |
It'll be like we're back home in Middengard! — DannigEndgame_LB_Bluffs_Random |
It'll be like we're back home in Middengard! — DannigEndgame_LB_Bluffs_2 |
It'll be like we're back home in Middengard! — DannigEndgame_LB_Bluffs_3 |
Would be nice to see some snow again. — DannigEndgame_LB_Bluffs_4 |
Would be nice to see some snow again. — DannigEndgame_LB_Bluffs_5 |
Would be nice to see some snow again. — DannigEndgame_LB_Bluffs_6 |
Dreary and chill, just how I like it! — DannigEndgame_LB_Bluffs_7 |
Dreary and chill, just how I like it! — DannigEndgame_LB_Bluffs_8 |
Someone's already been at it. Let's hope there's more to find. — DannigEndgame_LB_Excavation_Random |
Someone's already been at it. Let's hope there's more to find. — DannigEndgame_LB_Excavation_2 |
Whoever they were, we should continue their work. — DannigEndgame_LB_Excavation_3 |
Whoever they were, we should continue their work. — DannigEndgame_LB_Excavation_4 |
Whoever they were, we should continue their work. — DannigEndgame_LB_Excavation_5 |
Somebody certainly thought there was something there. We should take a look. — DannigEndgame_LB_Excavation_6 |
Somebody certainly thought there was something there. We should take a look. — DannigEndgame_LB_Excavation_7 |
Somebody certainly thought there was something there. We should take a look. — DannigEndgame_LB_Excavation_8 |
I always enjoy a good sailing expedition! — DannigEndgame_LB_LushIsle_Random |
Always enjoy a good sailing expedition! — DannigEndgame_LB_LushIsle_2 |
Always enjoy a good sailing expedition! — DannigEndgame_LB_LushIsle_3 |
Let's see what this island offers. — DannigEndgame_LB_LushIsle_4 |
Let's see what this island offers. — DannigEndgame_LB_LushIsle_5 |
Let's see what this island offers. — DannigEndgame_LB_LushIsle_6 |
I've learned that beauty can often hide malice. — DannigEndgame_LB_LushIsle_7 |
I've learned that beauty can often hide malice. — DannigEndgame_LB_LushIsle_8 |
I've learned that beauty can often hide malice. — DannigEndgame_LB_LushIsle_9 |
A hard journey, but we're with you. — DannigEndgame_LB_Peninsula_Random |
A hard journey, but we're with you. — DannigEndgame_LB_Peninsula_2 |
A hard journey, but we're with you. — DannigEndgame_LB_Peninsula_3 |
Rocky terrain makes for careful battles. — DannigEndgame_LB_Peninsula_4 |
Rocky terrain makes for careful battles. — DannigEndgame_LB_Peninsula_5 |
Rocky terrain makes for careful battles. — DannigEndgame_LB_Peninsula_6 |
At least we'll be near the sea. — DannigEndgame_LB_Peninsula_7 |
At least we'll be near the sea. — DannigEndgame_LB_Peninsula_8 |
At least we'll be near the sea. — DannigEndgame_LB_Peninsula_9 |
I'll switch those right over for you. — DannigEndgame_Exchange_Random |
I'll switch those right over for you. — DannigEndgame_Exchange_2 |
I'll switch those right over for you. — DannigEndgame_Exchange_3 |
A rarity for an oddity! — DannigEndgame_Exchange_4 |
A rarity for an oddity! — DannigEndgame_Exchange_5 |
A rarity for an oddity! — DannigEndgame_Exchange_6 |
Let's get those swapped. — DannigEndgame_Exchange_7 |
Let's get those swapped. — DannigEndgame_Exchange_8 |
Let's get those swapped. — DannigEndgame_Exchange_9 |
It's a buyer's market, and a seller's delight. — DannigEndgame_Exchange_10 |
It's a buyer's market, and a seller's delight. — DannigEndgame_Exchange_11 |
It's a buyer's market, and a seller's delight. — DannigEndgame_Exchange_12 |
Care for any more? — DannigEndgame_Exchange_13 |
Care for any more? — DannigEndgame_Exchange_14 |
Care for any more? — DannigEndgame_Exchange_15 |
Seems this one is more important to you. Noted. — DannigEndgame_Exchange_16 |
Seems this one is more important to you. Noted. — DannigEndgame_Exchange_17 |
Seems this one is more important to you. Noted. — DannigEndgame_Exchange_18 |
Happy to help, hero! — DannigEndgame_Exchange_19 |
Happy to help, hero! — DannigEndgame_Exchange_20 |
Happy to help, hero! — DannigEndgame_Exchange_21 |
Done. — DannigEndgame_Exchange_22 |
Done. — DannigEndgame_Exchange_23 |
Done. — DannigEndgame_Exchange_24 |
That's a fair exchange. — DannigEndgame_Exchange_25 |
That's a fair exchange. — DannigEndgame_Exchange_26 |
That's a fair exchange. — DannigEndgame_Exchange_27 |
We both win. — DannigEndgame_Exchange_28 |
We both win. — DannigEndgame_Exchange_29 |
We both win. — DannigEndgame_Exchange_30 |
What can I do for you? — DannigEndgame_OpenShop_Random |
What can I do for you? — DannigEndgame_OpenShop_2 |
What can I do for you? — DannigEndgame_OpenShop_3 |
I'm always here to help. — DannigEndgame_OpenShop_4 |
I'm always here to help. — DannigEndgame_OpenShop_5 |
I'm always here to help. — DannigEndgame_OpenShop_6 |
Here's what I've got. — DannigEndgame_OpenShop_7 |
Here's what I've got. — DannigEndgame_OpenShop_8 |
Here's what I've got. — DannigEndgame_OpenShop_9 |
A beautiful day for a battle! — DannigEndgame_WildOpenLogbook_Random |
A beautiful day for a battle! — DannigEndgame_WildOpenLogbook_2 |
A beautiful day for a battle! — DannigEndgame_WildOpenLogbook_3 |
Shall we boldly go? — DannigEndgame_WildOpenLogbook_4 |
Shall we boldly go? — DannigEndgame_WildOpenLogbook_5 |
Shall we boldly go? — DannigEndgame_WildOpenLogbook_6 |
Ah, this never gets old! — DannigEndgame_WildOpenLogbook_7 |
Ah, this never gets old! — DannigEndgame_WildOpenLogbook_8 |
One way or another, I'll be doing this 'til I die. — DannigEndgame_WildOpenLogbook_9 |
One way or another, I'll be doing this 'til I die. — DannigEndgame_WildOpenLogbook_10 |
One way or another, I'll be doing this 'til I die. — DannigEndgame_WildOpenLogbook_11 |
In my day, we actually sailed places... — DannigEndgame_WildOpenLogbook_12 |
In my day, we actually sailed places... — DannigEndgame_WildOpenLogbook_13 |
In my day, we actually sailed places... — DannigEndgame_WildOpenLogbook_14 |
Lead on, hero. — DannigEndgame_WildOpenLogbook_15 |
Lead on, hero. — DannigEndgame_WildOpenLogbook_16 |
Lead on, hero. — DannigEndgame_WildOpenLogbook_17 |
This'll be a nice break from my duties at Kingsmarch. — DannigEndgame_WildOpenLogbook_18 |
This'll be a nice break from my duties at Kingsmarch. — DannigEndgame_WildOpenLogbook_19 |
This'll be a nice break from my duties at Kingsmarch. — DannigEndgame_WildOpenLogbook_20 |
I wonder what we'll dig up this time. — DannigEndgame_WildOpenLogbook_21 |
I wonder what we'll dig up this time. — DannigEndgame_WildOpenLogbook_22 |
— Dannig_23_01_01.ogg |
— Dannig_23_01_02.ogg |
— Dannig_23_01_03.ogg |
— Dannig_23_02_01.ogg |
— Dannig_23_02_02.ogg |
— Dannig_23_02_03.ogg |
— Dannig_23_04_01.ogg |
— Dannig_23_04_02.ogg |
— Dannig_23_04_03.ogg |
— Dannig_24_01_01.ogg |
— Dannig_24_01_02.ogg |
— Dannig_24_01_03.ogg |
— Dannig_24_02_01.ogg |
— Dannig_24_02_02.ogg |
— Dannig_24_02_03.ogg |
— Dannig_24_03_01.ogg |
— Dannig_24_03_02.ogg |
— Dannig_24_03_03.ogg |
— Dannig_24_04_01.ogg |
— Dannig_24_04_02.ogg |
— Dannig_24_04_03.ogg |